ทหารเมียนมาระส่ำเครื่องบินตกทหารหนีทัพ
กองทัพเมียนมาระส่ำหนัก หลังกลุ่มรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ ( NUG ) แถลงถึงการจับตัวนักบิน เครื่องบินขับไล่แบบ K-8 ได้ 1 นายหลังกระโดดร่มก่อนเครื่องบินตกสู่พื้น ด้านชายแดนด้านแม่ฮ่องสอน ทหารเมียนมา สังกัดกองพันเคลื่อนที่เร็ว ที่ 519 หนีเข้าไทย 2 นาย
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 โฆษกรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติเมียนมา (NUG) แถลงว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2566 เวลา 14.00 น. ( ตามเวลาในเมียนมา ) กองกำลังป้องกันแห่งชาติกะเรนนี (KNDF) ,กองกำลัง PDF พื้นที่เมืองเนปีดอว์ และกำลังทหารกะเหรี่ยงคะยา KA ได้จับกุมตัว พันตรี โคง ตัน โหม่ นักบินเครื่องบินขับไล่ แบบ K-8 ที่ถูกยิงตกโดย กองกำลัง KNDF
หลังจากที่เครื่องบินตก นักบินทั้งสองคนบนเครื่องบินก็กระโดดด้วยร่มชูชีพ และกองกำลังร่วมก็พบอุปกรณ์ร่มชูชีพที่พวกเขาสวมอยู่ในพื้นที่ในเมืองฟรูโซ วันรุ่งขึ้น วันที่ 12 พฤศจิกายน ชิ้นส่วนของเครื่องบินรบที่ตกถูกพบในเมืองตันตองจี รัฐกะเหรี่ยง รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) กล่าวว่าพบมันใกล้กับกระท่อมบนภูเขาระหว่างหมู่บ้าน Kamadipoli และหมู่บ้าน Maropoli แต่ทางด้านรัฐบาลทหารเมียนมาปฏิเสธว่า เครื่องบินไม่ได้ถูกยิงตก แต่เกิดจากเครื่องยนต์ขัดข้อง
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 เวลา 15.00 น. นายสังคม คัดเชียงแสน นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ได้รับรายงานจาก นายจ่าเน้ง หวานซึ้ง ผู้ใหญ่บ้าน บ้านนาป่าแปก ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ว่าทางชุด ชรบ.บ้านนาป่าแปก ได้ควบคุมตัว ทหารเมียนมา สังกัด กองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 519 ฐานดอยสะเท จำนวน 2 นาย คือ 1 นายต่านไห่ ไม่มีชื่อสกุล อายุ 24 ปี และ 2. นายซอมู ไม่มีชื่อสกุล อายุ 31 ปี ที่หลบหนีเข้ามาในไทยบริเวณหมู่บ้านดังกล่าว จากนั้นได้แจ้งให้แก่ จนท.ตร.สภ.หมอกจำแป่ และ จนท.ตม.แม่ฮ่องสอน มารับตัวไปควบคุม โดยในวันพรุ่งนี้ หน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท จะทำการสอบปากคำทหารเมียนมาทั้งสองนาย
สำหรับสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน พบว่า ที่บ้านใหม่ในสอย มีผู้ลี้ภัยเข้ามาเมื่อวันที่ 20 พ.ย.2566 จำนวน 83 คน ทำให้ยอดผู้ลี้ภัยรวม 720 คน ทั้งนี้กลุ่มคนดังกล่าว ได้เดินทางกลับสู่รัฐคะยา ที่หมู่บ้านดอว์นกกุ เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ได้ถูกทหารเมียนมายิงอาวุธหนัก ( ค.120 มม.) ถล่มอีกรอบทำให้พากันหนีกลับมาที่บ้านใหม่ในสอยอีกครั้ง
————————————
ทศพล / แม่ฮ่องสอน