*“ผช.รมต.นิยม เวชกามา”ถามด่วนถึงรมช.คมนาคม กรณีสนามบินสุวรรณภูมิ ย้ายห้องรับรองพระภิกษุ-สามเณร หลังข่าวปลิวว่อนโลกโซเชี่ยล หวั่นเสื่อมเสีย”*

จากกรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ข่าวว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ยกเลิกการใช้งานห้องรับรองพระภิกษุและสามเณร บริเวณชั้น 3 อาคารผู้โดยสาร จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ เกรงจะกระทบวงการพระสงฆ์และพระพุทธศาสนานั้น
วันที่ 11 ธันวาคม 2567 “ดร.นิยม เวชกามา” หรือ “ดร.มหานิยม” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล) กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไม่นิ่งนอนใจ ได้เร่งสอบถามข้อเท็จจริงจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และ “นางมนพร เจริญศรี” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริงดังกล่าว
โดย รมช.มนพร กล่าวว่า ได้ให้ทีมงานประสานงานติดต่อกับผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเน้นว่าประเด็นนี้แตกต่างจากข่าวที่ว่ามีการคืนพื้นที่
เวลาต่อมา ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้ออกแถลงว่า
“ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขอชี้แจงว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีความจำเป็นในการดำเนินการดังกล่าว เนื่องจาก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ปรับพื้นที่จุดตรวจค้นผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น 4 เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารและผู้ใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้น โดยได้มีการขยายพื้นที่จุดตรวจค้น Fast Track Zone 4 บริเวณเคาน์เตอร์เช็กอิน Row W ชั้น 4 ซึ่งครอบคลุมไปยังพื้นที่ร้านสะดวกซื้อ
ส่งผลให้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พิจารณาย้ายร้านสะดวกซื้อและจัดสรรพื้นที่ทดแทน เป็นพื้นที่ห้องรับรอง CIP 4 – 6 ชั้น 3 ซึ่งเดิมห้องรับรอง CIP 6 เป็นพื้นที่ห้องรับรองพระภิกษุและสามเณร
โดย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้พิจารณาจัดสรรพื้นที่ให้มีความเหมาะสมและอยู่ในโซนพื้นที่เดียวกันกับร้านค้าอื่นๆ โดยคำนึงถึงความสะดวกของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ
จึงมีความจำเป็นต้องยกเลิกการให้บริการของห้องรับรองพระภิกษุ เดิม (ห้องรับรอง CIP 6)
อย่างไรก็ตาม ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้จัดพื้นที่ห้องรับรอง CIP 3 เป็นห้องรับรองพระภิกษุและสามเณรทดแทน และได้เปิดใช้เป็นห้องรับรองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้มีการแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรปราการทราบในเบื้องต้นแล้ว”

ด้าน ดร.มหานิยม กล่าวว่า ได้รับทราบข้อเท็จจริงเบื้องต้นจากทางท่าน รมช.มนพรแล้วว่า การปรับปรุงห้องสวดมนต์และเจริญภาวนา ในสนามบินสุวรรณภูมินั้น ทางสำนักนายกรัฐมนตรี จะมีการกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินการเป็นไปตามที่วางแผนไว้ และไม่กระทบต่อพระสงฆ์ผู้ใช้บริการหรือผู้ที่มีความสนใจในการปฏิบัติธรรม นอกจากนี้ ยังมีการวางแผนเพื่อให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสงบสำหรับการสวดมนต์และการทำสมาธิ เพื่อรองรับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ อย่างมีประสิทธิภาพ.และได้รับการขี้แจงจาก “นายอินทพร จั๋นเอี่ยม” ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแล้ว