รายงานข่าวจาก.ไตรรัตน์ มีวงษ์ จ.สระแก้ว
ข่าว.สระแก้ว ชุดสืบจังหวัดสระแก้ว รวบ แบงค์ บางแตน หลอกผู้เสียหายว่า รับจำนำรถที่หายและให้โอนเงิน มิเช่นนั้นจะส่งขายเข้าเขมร พบซิมม้าจำนวนมาก
ตร.สระแก้ว บุกเข้าจับกุมตัว”แบงค์ บางแตน”

ใช้อุบายหลอกผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อของโจร โดยจะหลอกว่ารถยนต์ที่หายไปมีคนนำมาจำนำและให้โอนเงิน หากไม่โอน จะเอาไปส่งขายข้ามประเทศไปฝั่งกัมพูชา ซึ่งเป็นการซ้ำเติมและจงใจหลอกผู้เสียหาย รวมทั้งยังพบประวัติก่อเหตุมาหลายครั้งในหลายพื้นที่ โดยผู้ก่อเหตุครอบครองโทรศัพท์ (ซิมม้า)
(11 ม.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ออมสิณ บุญญานุสนธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว สั่งการให้ พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว (สส.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ดำรง เอี่ยมไพโรจน์ ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และกำลังตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว สนธิกำลังร่วมกับ ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ปราจีนบุรี และ ชุดสืบสวน สภ.บ้านสร้าง ร่วมกันเข้าตรวจค้นตามหมายค้นศาลจังหวัดสระแก้วที่ 2/67 ลงวันที่ 9 ม.ค.67 พบ นายทศพร ขอสงวนนามสกุล หรือ “แบงค์ บางแตน” อายุ 31 ปี ที่อยู่ 40/1 ม.8 ต.ไผ่เขียว อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดสระแก้วที่ 9/67 ลงวันที่ 8 ม.ค.67 จึงได้ทำการจับกุมตัวบุคคลดังกล่าวไว้ ได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 58 ม.5 ต.บางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี
ซึ่งจากการตรวจค้นในบ้าน พบของกลาง ประกอบด้วย 1.รองเท้าแตะยี่ห้อ fitflop สีดำ จำนวน 1 คู่  2.หมวกแก๊ป ยี่ห้อ gucci สีดำ จำนวน 1 ใบ 3.เสื้อแขนยาวลายสก๊อต สีดำ-ขาว จำนวน 1 ตัว 4.กางเกงยีนส์ขาสั้น จำนวน 1 ตัว 5.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ oppo รุ่น a16 สีเทา 6.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ oppo รุ่น reno5 5G สีเงิน 7.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Iphone รุ่น 15 promax  สีดำ 8.ซิมโทรศัพท์ ทรูมูฟ จำนวน 13 หมายเลข (ซิมม้า) และ 9.รถยนต์ ยี่ห้อ ford รุ่น everest สีดำ เลขทะเบียน 1ขต-7540 กทม. (รถที่รับจำนำไว้) นอกจากนี้ ยังพบของกลางอยู่ในตู้เซฟ ประกอบด้วย 1.อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ Colt ขนาด .38 super จำนวน 1 กระบอก 2.ซองกระสุนปืน ขนาด .38 super จำนวน 1 อัน 3.เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 super จำนวน 12 นัด บรรจุในซองกระสุนปืน 9 นัด อยู่ในตู้เซฟ 3 นัด (รับจำนำ) ในเบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ต้องหากระทำความผิดฐาน ฉ้อโกง โดยแสดงตนเป็นคนอื่น และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
และจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ สืบเนื่องจากมีผู้เสียหาย คือ น.ส.วรัทยาฯ ขอสงวนนามสกุล อายุ 31 ปี เข้าแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปางสีดา ว่าเมื่อวันที่ 2 ม.ค.67 ได้พบว่ารถยนต์กระบะของตน ได้หายไปจากหน้าบ้าน จึงโพสต์ตามหารถลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก ต่อมา วันที่ 3 ม.ค. มีบุคคลไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด โทรมาบอกว่า ได้รับจำนำรถยนต์กระบะเอาไว้ และถ้าอยากได้คืน ให้โอนเงินมาจำนวน 60,000 บาท ในไลน์รับจำนำรถ พร้อมทั้งมีการข่มขู่ว่า ถ้าไม่โอนจะนำรถยนต์ส่งไปขายให้กับประเทศเพื่อนบ้านฝั่งกัมพูชา จึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ปางสีดา ไว้เห็นหลักฐาน
ทางด้าน ผู้เสียหาย ได้หลงเชื่อ จึงได้นัดพบกับคนร้าย ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เมื่อไปถึงก็โทรศัพท์นัดคนร้ายแจ้งให้โอนเงินเข้าบัญชี ของคนร้าย และแจ้งว่าเมื่อรับเงินแล้วจะมอบรถคืนให้ แต่เมื่อผู้เสียหายโอนเงินให้ คนร้ายกลับปิดโทรศัพท์หนีและขาดการติดต่อ
ภายหลังจากการสืบสวนทราบว่าคนร้ายในคดีนี้ คือ นายทศพรฯ หรือ แบงค์ บางแตน มีอาชีพรับจำนำรถ โดยได้หลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินจำนวนดังกล่าวให้ หลังจากนั้นได้ไปกดเงินจากตู้ atm ในเขตพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองสระแก้วจึงขออนุมัติต่อศาลขออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าวและนำมาซี่งการตรวจค้นจับกุมตัวในครั้งนี้
ในชั้นจับกุมนายทศพรฯให้การรับสารภาพว่า ได้กระทำการหลอกหลวงกับผู้เสียหายจริง ซึ่งอ้างว่าไม่ได้รับหรือโจรกรรมรถยนต์คันดังกล่าว แต่เห็นผู้เสียหายโพสต์ตามหารถในกลุ่มรับจำนำรถ จึงได้วางแผนการข่มขู่หลอกลวง โดยจากการตรวจสอบประวัติ พบว่าก่อนหน้านี้นายทศพรฯเคยก่อคดีในลักษณะดังกล่าวในพื้นที่ จ.กรุงเทพมหานคร และ จ.ฉะเชิงเทรา และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3
อย่างไรก็ตาม ทาง จนท.ยังไม่ปักใจเชื่อ และจะทำการสืบสวนเพื่อขยายผล เพราะว่าเป็นการซ้ำเติมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และอาจเกี่ยวข้อง กับขบวนการลักหรือรับจำนำรถโดยผิดกฏหมาย โดยทางตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ขอฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชน หากสงสัยว่าจะเคยตกเป็นเหยื่อของคนร้ายรายดังกล่าว สามารถประสานข้อมูลได้ที่ สภ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว เพื่อดำเนินการกับผู้ต้องหาตามกฏหมายต่อไป.