วันนี้จะพามาจังหวัดตราด 2 ตายายขับซาเล้ง หลังคลื่นลมสงบชาวประมงพื้นบ้านหว้งโสมและบ้านตาหนึกตลอดจนถึงชายหาดบานชื่นได้ออกเดินเท้าไสเคยรายได้ดีวันกว่าพันบาทที่บ้านตาหนึก ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด นางเนื้อทอง ละอองสินธุ์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/4 บ้านห้วงโสม ต.ไม้รูดอ.คลองใหญ่ จ.ตราด เปิดเผยถึงการเหตุการณ์ฝูงเคยเข้ามาอาศัยอยู่ในทะเลริมชายหาดบ้านตาหนึกว่า ชาวบ้านพากันมาไสเคยไปทำกะปิได้ 3 วันแล้ว หลังจากวันที่ผ่านมา มีชาวบ้านพบฝูงเคยบริเวณทะเลหน้าชายหาดบ้านตาหนึก เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงนำอุปกรณ์ในการไสเคย เรียกกันว่า คันละวะ ลงทะเล และเดินเท้าไสเคยดังกล่าว โดยจะเริ่มเดินเท้าไสเคยกันตั้งแต่เวลาประมาณ 05.00 นาฬิกา เป็นต้นไป หลังได้เคยมากจนเต็มถุงละวะ จึงนำขึ้นฝั่งใส่ภาชนะ และลงไปเดินเท้าไสเคยกันใหม่ ซึ่งชาวประมงพื้นบ้าน จะเดินเท้าไสเคยกันแทบตลอดทั้งวันในช่วงน้ำทะเลลดลง นางเนื้อทอง เล่าว่า เคยฝูงนี้เพิ่งเข้ามาเมื่อวันที่ผ่านมา ชาวบ้านเดินเท้าไสเคยได้วันละ เป็นร้อย ถึง 2 ร้อยกิโลที่ผ่านมา ราคาขายเคยสด อยู่ที่ กก.ละ 18 บาท จะมีแม่ค้าพ่อค้ารับซื้อกุ้งมารับซื้อเคยสดไป จะมีรายได้วันละ 1,000 -2,000 พันบาท แต่ชาวบ้านบางรายไม่ขายเป็นเคยสด จะนำไปหมักกับเกลือก่อนนำไปตากแห้ง และมาใส่ครกไม้ตำให้แหลก เป็นกะปิ บรรจุภาชนะไว้จำหน่ายให้ลูกค้า เรียกว่ากะปิชายหาด หอม สะอาด รสชาติดี ในราคาบรรจุภาชนะ 150 บาท ต่อ 1 กิโล ถ้าไม่บรรจุไม่อัดภาชนะจะขายในราคา 120 บาท สำหรับละวะไสเคย เป็นอุปกรณ์ในการจับเคย ที่นำภูมิปัญญามาจากบรรพบุรุษ ด้วยการนำไม้ไผ่ขนาดความยาว 3-4 เมตร มามัดติดกัน เว้นช่องปลายไม้ไผ่ไว้ด้วยการนำอวนตาข่าย หรืออวนเขียวและขาวมาเย็บเป็นผืน ปากกว้าง ก้นลีบเป็นถุง สำหรับให้เคยที่ไสได้เข้าไปอยู่ เมื่อเคยเต็มถุงแล้ว จึงนำไปถ่ายใส่ภาชนะ แล้วจึงลงมาเดินเท้าไสเคยใหม่ โดยจะไสเคยในระดับน้ำลึกประมาณ เอว-อก หรือใสเคยตื้นใช้แรงกายดันละวะไล่ฝูงเคยในทะเล โดยผู้จะเดินเท้าไสเคย จะต้องแข็งแรง แต่ 2 คน ตายายก็ไม่ ท้อถอยสามารถเดินไสเคยได้วันละหลายชั่วโมงดังกล่าว แม้จะเหน็ดเหนื่อย ทนแดด ทนฝน แต่รายได้ก็คุ้มค่า วันละ 2-3 พันบาท เป็นการหารายได้เสริมให้กับคอบครัว ซึ่ง1ปี มีเพียงไม่กี่วันเท่านั้น แต่วันนี้ได้แค่ 10 กว่ากิโลเท่านั้นเพราะว่าเคยมีมา 3-4 วันที่ผ่านมาแล้ววันนี้ก็ เบาบางแล้ว เป็นวิถีชีวิตชาวปะมงพื้นบ้านในอำเภอคลองใหญ่ ที่หาดูได้ในช่วงเวลานี้เท่านั้น/

ภาพ/ข่าว/วิเชียร ม่วงสี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ตราด