ผบ.มทบ.14 มอบเงินช่วยเหลือทหารผู้ต้องหาทำร้ายเพื่อนเสียชีวิตหลังถูก จนท.ศาลฯ นำเงินประกันตัวไปใช้หนี้นอกระบบ

ผบ.มทบ.14 มอบเงินช่วยเหลือทหารผู้ต้องหาทำร้ายเพื่อนเสียชีวิตหลังถูก จนท.ศาลฯ นำเงินประกันตัวไปใช้หนี้นอกระบบ
ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 14 (ผบ.มทบ.14)
มอบเงินช่วย เหลือเยียวยาครอบครัวทหารที่ตกเป็นผู้ต้องหาทำร้ายเพื่อนทหารจนเสียชีวิต หลังถูกเจ้าหน้าที่ทหารศาลรัฐธรรมนูญฮุบเงินประกันตัวรวมกว่า 3 แสน 5 หมื่น 8 พันบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ส่วนจ่าทหารที่ก่อเหตุสั่งเอาผิดวินัยร้ายแรง ดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญา หลังยอมรับว่าไม่ได้นำเงินเข้าศาลทหาร แต่นำเงินไปใช้หนี้นอกระบบหมดแล้ว
จากกรณีนางสาวน้ำ นิชนันท์ วังคะฮาด อดีตผู้สมัคร สส.ชลบุรี พรรคก้าวไกล พาครอบครัวทหารที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารศาลทหารรัฐธรรมนูญ มทบ.14 ฮุบเงินประกันตัว รวม 4 คน จำนวน 3 แสน 5 หมื่น 8 พันบาท เข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชลบุรี เพื่อเอาผิดเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว และไปฟ้องร้องศาลจังหวัดชลบุรี ให้ชดใช้ค่าเสีบหาย กรณีนี้เกิดขึ้นจากคดีเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา มีพลทหารค่ายนวมินทร์ถูกครูฝึก และทหารรวม 4 นาย ทำร้ายเสียชีวิต จากนั้นครอบครัวทหารที่ก่อเหตุได้หาเงินประกันตัว 1.5 แสนบาท 2 ราย / ครูฝึก 1 แสน และทหารอีกรายใช้หลักทรัพย์โฉนด และเงิน 8 พันบาท และนำเงินไปวางที่เจ้าหน้าที่ศาลตามขั้นตอน แต่จากนั้นผู้ก่อเหตุต้องถูกค่ายจำคุกทางวินัย จึงต้องถอนประกัน แต่เมื่อไปขอเงินจากศาลคืน เจ้าหน้าที่ศาลยอมรับว่า เอาเงินไปใช้หนี้นอกระบบหมดแล้ว ครอบครัวทหารจึงมาร้องเรียน โดยก่อนหน้านี้เข้าไปร้องต่อศาลทหารแล้ว แต่ถูกให้นำเรื่องมาแจ้งความกับทางตำรวจ เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายเอง เนื่องจากเป็นพฤติกรรมส่วนตัวของทหารคนดังกล่าว และคดียังถูกเปลี่ยนไปสู่การพิจารณาของศาลพลเรือนแล้ว
คืบหน้าล่าสุดที่ มณฑลหารบกที่ 14 จังหวัดชลบุรี พลตรีศิรช์ณรงค์ หลวงเทพนิมิต ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 14 พร้อมด้วย พลโทบุรินทร์ ทองประไพ จากกรมทหารพระธรรมนูญ ได้เชิญครอบครัวผู้เสียหายเข้าพบ เพื่อชี้แจงแนวทางการแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งมอบเงินที่หักจากที่ผู้ก่อเหตุที่ฝากไว้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ทหาร จำนวน 1 แสน 6 หมื่นบาท และจัดสรรเงินสมทบ จากทางมณฑลทหารบกที่ 14 รวมจำนวนเงิน 3 แสน 5 หมื่น 8 พันบาท ให้กับครอบครัวทหารทั้ง 4 ราย และมอบเงินให้กับครอบครัวทหารอีก 3 ราย ที่ถูกจ่าทหารคนเดิมก่อเหตุ ไปก่อนหน้านี้แล้ว
เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนไปก่อน เนื่องจากการดำเนินคดีต้องใช้เวลาที่นาน ส่วนการดำเนินคดีกับจ่าทหาร ที่ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นทางผู้บัญชการมณฑลทหารบกที่ 14 เผยว่า จะลงโทษทางวินัยร้ายแรงและดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา ในส่วนการลงโทษฝ่ายทหารจะนำเรื่องเสนอไปทาง ปปช. ควบคู่ไปกับทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชลบุรี เพื่อพิจารณาลงโทษในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ
ส่วนจ่าทหาร คนดังกล่าวเบื้องต้นได้ถูกสั่งพักราชการไปแล้ว