วันที่ 31 มกราคม 2568 ความคืบหน้า กรณี พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภาค 7 นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต. อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 พล.ต.ต.พรชัย ชะลอเดช รรท.ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรีนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ พ.อ. พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์/ผบ.ร.29 พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์/รอง ผบ.ร.29 พ.ต.อ.บัญชา ศรีรุจิเมธากร รรท.ผกก.สภ.ทองผาภูมิ, พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า), พ.ต.ท.ธีรพร วิจิตรบรรณการ รอง ผกก.สส.สภ.ทองผาภูมิ ร่วมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดร่วมกันเฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิด ในเขตพื้นที่รับผิดชอบตามแนวชายแดน โดยเฉพาะตามทางหลวงสาย 323 กาญจนบุรี-ไทรโยค-ทองผาภูมิ-สังขละบุรี
โดยช่วงเช้าวันที่ 31 ม.ค.68 เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจสอบรถพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ตัวแม่หมายเลขทะเบียน 83-5900 กาญจนบุรี ตัวลูกทะเบียน 86-5075 นครปฐม พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาอยู่ภายในพ่วงตัวแม่และพ่วงตัวลูก จำนวน 169 ราย เป็นชาย 102 ราย หญิง 67 ราย เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวนายชินกร หรือ นนท์ คนขับ อายุ 30 ปี ขาว ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี และนายเข็ม ชาว อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เอาไว้ ก่อนที่จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมรถพ่วงของกลางไปที่ สภ.ทองผาภูมิ ช่วงการจับกุมเป็นจังหวะที่ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภาค 7 เดินทางมาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิพอดี จึงเดินทางไปสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาด้วยตนเอง
โดย พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภาค 7 เปิดเผยภายหลังว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิสืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมามาจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย ด้วยการใช้เส้นทางถนนทางหลวงหมายเลข 323 สังขละบุรี-ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่จึงสนธิกำลังกันออกหาข่าว โดยเฉพาะต่างชาติชาวจีน อาจจะเป็นพวกแก๊งคอเซ็นต์เตอร์ ให้ตรวจสอบเข้ามาแล้วไปที่ใด พักที่ใด ขอให้ ตม.ช่วยสอดส่องให้ชัดเจน
ขณะที่ร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่บริเวณจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ พบรถบรรทุก 10 ล้อลากพ่วงมาด้วย ลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้งขับมาจากทางด้าน อ.สังขละบุรี มุ่งหน้าตัว อ.เมืองกาญจนบุรี เมื่อมาถึงด่านเจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น จากการตรวจค้นผลรากฎพบจำนวนแรงงานข้างต้นซุกซ่อนตัวอยู่ภายในรถพ่วงทั้งตัวแม่และตัวลูก โดยมีแสลนปิดบังสายตาเจ้าหน้าที่เอาไว้ หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาที่เป็นชาวไทย พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานในการขยายผลจับกุมตัวกลุ่มผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีด้วยเช่นกัน
ขอเรียนเพิ่มเติมว่าหลายวันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี ได้ร่วมกันจับกุมผู้กระทำความผิดในหลายคดี ซึ่งคดีที่น่าสนใจคือคดีการจับกุมผู้ต้องหาที่กำลังลักลอบนำเงินสดออกนอกประเทศมากถึง จำนวน 2.9 ล้านบาท รวมถึงคดีการจับกุมหญิงสาวชาวเมียนมาได้พร้อมอุปกรณ์สื่อสารประเภทโทรศัพท์มือถือจำ รวมทั้งเครื่องนับเงินเป็นจำนวนมาก
โดยเมื่อวันที่ 30 ม.ค.68 ที่ผ่านมาผมได้เดินทางมามาที่ สภ.ทองผาภูมิ ในการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการขยายผลว่าเส้นทางการเงินเกี่ยวเนื่องกับขบวนการกระทำผิดกฎหมายและการฟอกเงินในประการใดบ้าง
เบื้องต้นจากการที่เรายึดเงินได้จำนวน 2.9 ล้านบาท ที่ชายแดนอำเภอสังขละบุรีนั้น ถือว่าเป็นเงินผ่านบัญชีของผู้ต้องหาที่สูงมาก ขณะนี้ผมได้สั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ต้องหาและจะใช้ พรบ.ในการยึดทรัพย์ ด้วยการนำเจ้าหน้าที่ ตร.ภาค 7 รวมถึงเจ้าหน้าที่ ปปง.เข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย
ด้านนายชินกร หรือ นนท์ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นคนขับรถพ่วงขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาที่ถูกจับกุมตัว เมื่อประมาณ 2-3 วันที่ผ่านมาตนได้ขนแรงงานมาแล้วครั้งหนึ่งด้วยการใช้รถพ่วง 22 ล้อคันเดียวกัน โดจะขนแรงงานในช่วงเวลาระหว่าง 01.00-02.00 น.แต่ครั้งนี้ตนได้เลือกขนในช่วงเช้า เนื่องจากมีทีมงานคอยสังเกตการณ์ตามด่านต่างๆให้ เมื่อถึงเวลาเจ้าหน้าที่ผลัดเวรยาม ก็จะฉวยโอกาสในช่วงเวลาดังกล่าวขับรถผ่านด่าน โดนตนกับเพื่อนที่มาด้วยกันจะได้ค่าจ้างคนละ 6,000 บาท โดยแรงงานทั้งหมดตนจะนำไปส่งในพื้นที่เขต อ.เมืองกาญจนบุรี จากนั้นจะมีคนมารับช่วงต่อแล้วนำกลุ่มแรงงานไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชั้นใน ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ระหว่างเดินทางก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน
ส่วนนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ กล่าวว่า จากการสอบถามนายชินกร ผู้ต้องหาที่นำพาคนลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเบื้องต้นให้การว่าตนและนายเข็ม รับผู้ลักลอบเข้าเมืองฯ มาจากอำเภอสังขะบุรี ใช้เส้นทางถนนหมายเลข 323 สังขละบุรี-กาญจนบุรี มุ่งหน้าตรงไปอำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อไปส่งผู้ลักลอบเข้าเมืองฯ ปลายทางคือบริเวณอำเภอเมืองกาญจนบุรี จากนั้นจะมีรถมารับผู้ลักลอบเข้าเมืองฯ ไปส่งต่อยังจังหวัดชั้นในอีกทอดหนึ่ง ผู้ต้องหาทั้งสองได้รับค่าจ้างในการนำไปส่งคนละ 6,000 บาท
โดยหลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ดำเนินคดีในข้อกล่าวหากระทำความผิดฐาน “ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น ด้วยประการใดๆ เพื่อให้บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมายพ้นจากการจับกุม” ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาทั้ง 169 คน ถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
รักษพล พุ่มพฤกษ์
ภาพ/ข่าว
Share this content: