“รมต.ชูศักดิ์ ศิรินิล””ผช.รมต.นิยม เวชกามา”ร่วมประชุมปัญหาวัด-ที่พักสงฆ์ตั้งอยู่ในที่ดินของรัฐพร้อมตั้ง4คณะอนุกรรมการแก้ไขอย่างเร่งด่วน*
เวลา 09.30 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล “รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี “ดร.นิยม เวชกามา” หรือ “ดร.มหานิยม” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ที่ปรึกษารัฐมนตรี ร่วมประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหากรณีวัดและที่พักสงฆ์มีสถานที่ตั้งอยู่ในที่ดินของรัฐ โดยมี “นายอินทพร จั่นเอี่ยม” ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม
รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล กล่าวว่า วันนี้ถือว่าเป็นการประชุมครั้งแรกของคณะกรรมการแก้ไขปัญหากรณีวัดและที่พักสงฆ์มีสถานที่ตั้งอยู่ในที่ดินของรัฐ ที่แต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรี เจตนารมณ์ก็เพื่อแก้ปัญหาวัดและที่พักสงฆ์ที่ตั้งอยู่ในเขตที่ดินของรัฐ ซึ่งเป็นปัญหาสะสมมาอันยาวนาน ทั้งวัดที่ไม่มีโฉนดและวัดที่มีที่ดินทับซ้อนกับที่ดินของรัฐ จึงขอความร่วมมือหน่วยงานที่มากันในวันนี้มาร่วมแก้ไขปัญหาให้หมดไป
“ในคณะกรรมการชุดใหญ่นี้จะมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 4 ชุด เพื่อร่วมกันแก้ปัญหา คณะแรกมี ดร.นิยม เวชกามา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งทั้ง 4 คณะต้องไปรวบรวมข้อมูลแนะข้อเสนอแนะให้กับคณะกรรมการชุดใหญ่นี้ กรอบการทำงาน 60 วัน หากไม่พอขยายได้ และคณะกรรมการชุดใหญ่จะมีการประชุมเดือนละครั้ง” รศ.ชูศักดิ์ กล่าว
ด้าน ดร.นิยม เวชกามา กล่าวว่า วันนี้ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่รัฐบาลโดย “นางสาวแพทองธาร ชินวัตร” และ “อาจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล” ได้หยิบปัญหาเรื่องที่ดินวัดให้เป็นวาระแห่งชาติ เนื่องจากมีคณะกรรมการจากหลายหน่วยงานเข้ามาร่วมกันแก้ปัญหา และปัญหาที่ดินวัด เป็นนโยบาย 1 ใน 8 ข้อ ที่อาจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล ได้ประกาศเป็นนโยบาย เจตนารมณ์ที่จะทำงานให้กับคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา
“ปัญหาที่ดินวัดและที่พักสงฆ์มีนับหมื่นแห่ง บางแห่งวัดตั้งมาแล้วหลายสิบปียังไม่ได้รับโฉนด เพราะหน่วยงานรัฐบางแห่งไปประกาศทับซ้อนที่ของวัด เจ้าอาวาสแต่ก่อนท่านไม่ได้ทำโฉนดเอาไว้ วัดสร้างด้วยชุมชน คิดว่าคงไม่มีปัญหา ตอนหลังบางวัดรัฐประกาศกฎหมายออกมาไปทับที่วัด วัดก็ไม่มีทางออก หรือบางวัดตั้งอยู่ในเขตทหาร ที่กรมธนารักษ์ บ้านเรือนรอบข้างเจริญแล้วมีห้าง มีหมู่บ้านจัดสรรเต็มไปหมด วัดมีอุโบสถสร้างไว้หลายสิบล้าน พระท่านประกอบศาสนกิจไม่ได้ เพราะยังไม่ได้รับอนุญาตจากทหารบ้าง ราชพัสดุบ้าง กรณีแบบนี้มีหลายแห่ง ดีใจที่ได้ทำเรื่องนี้ และต้องขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี และอาจารย์ชูศักดิ์ ที่ดำเนินการเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนและเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล” ดร.มหานิยม กล่าว
ขณะที่ นายอินทพร จั่นเอี่ยม เปิดเผยว่าปัจจุบันวัดในประเทศไทยมีจำนวน 44,083 วัด พบว่าวัดตั้งอยู่ในเขตที่ดินของรัฐประมาณ 4,259 วัด ที่พักสงฆ์ยังไม่ได้เป็นวัดมีประมาณ 9,918 แห่ง ซึ่งจำแนกได้ทั้งพื้นที่สาธารณประโยชน์ พื่นที่ป่าสงวน อุทยาน นิคมสหกรณ์ ราชพัสดุ สปก.หรือแม้กระทั้งที่เขตพื้นที่ทหาร
ทั้งนี้ ประธานคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหากรณีวัดและที่พักสงฆ์มีสถานที่ตั้งอยู่ในที่ดินของรัฐ
ประกอบด้วย 4 ท่าน คือ 1. ดร.นิยม เวชกามา เป็นประธานคณะอนุกรรมการการพิจารณาศึกษาวัดและที่พักสงฆ์ที่มีปัญหาในการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน 2. นายธเนศ กิตติธเนศวร เป็นประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาวัดและที่พักสงฆ์ ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ที่ดินของรัฐ แต่มีปัญหาการต่อใบอนุญาต 3.นายวัฒนา เตียงกูล เป็นประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาวัดและที่พักสงฆ์ ที่ยังมิได้รับอนุญาตให้ใช้ที่ดินของรัฐ และ 4. รศ.ยุทธพร อิสระชัย เป็นประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาวัดและที่พักสงฆ์ ซึ่งมีที่ดินเป็นที่ตั้งทับซ้อนในที่ดินของรัฐ///////ดร.นิยม เวชกามา
Share this content: