สั่งตัดแล้วไฟฟ้า บริเวณบ้านเจดีย์สามองค์-เมืองพญาตองซู ซึ่งเป็น 1 ใน 5 จุดมีความเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซนเตอร์ พร้อมทั้งเพิ่มความเข้มข้นในการสกัดกั้นและปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายข้ามแดนทุกรูปแบบ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ด้านเมียนมา จังหวัดกาญจนบุรี มอบหมายให้ นายสุริยศักดิ์ เหมือนอ่วม นายอำเภอสังขละบุรี พร้อมด้วย ฝ่ายความมั่นคงภายในจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมลงพื้นที่บริเวณหน้าด่านบ้านเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ดูแลความเรียบร้อยในการตัดไฟฟ้า บริเวณบ้านเจดีย์สามองค์-เมืองพญาตองซู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ขณะนี้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอสังขละบุรี ได้ทำการปิดสวิตช์ เครื่องจ่ายไฟฟ้า เรียบร้อยแล้ว
ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบาย (“Seal Stop Safe”) เพิ่มความเข้มข้นในการสกัดกั้นและปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบ (เช่น ยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์) ตลอดแนวชายแดนในพื้นที่ 14 จังหวัด โดยเริ่มดำเนินการในห้วงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป และจะมีการประเมินผลทุก 6 เดือน ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรี มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา ระยะทางประมาณ 370 กิโลเมตรในพื้นที่ 5 อำเภอชายแดน ประกอบด้วยอำเภอสังขละบุรี อำเภอทองผาภูมิ อำเภอไทรโยค อำเภอด่านมะขามเตี้ย และอำเภอเมืองกาญจนบุรี ซึ่งปรากฏปัญหาในพื้นที่ชายแดน ดังนี้ ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ การค้ามนุษย์และค้าประเวณี ยาเสพติด แรงงานเถื่อนและต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมือง สิ่งผิดกฎหมายข้ามแดนและลักลอบของหนีภาษี
ทั้งนี้ นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้แจ้งให้นายอำเภอสังขละบุรี และนายอำเภอที่มีแนวเขตติดชายแดนพม่า อีก 4 อำเภอ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้หากมีความคืบหน้าประการใด จะแจ้งให้ทราบต่อไป
อีกทั้ง จังหวัดกาญจนบุรี ได้มีแนวทางปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด เพิ่มความเข้มข้น ผนึกกำลังสกัดกั้นยาเสพติด “Seal Stop Safe” ปราบปรามยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ พร้อมทั้งมีมาตรการ“ซีลชายแดน 2 ชั้น” (พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี) สกัดปัญหาอย่างเป็นระบบ แบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอนสำคัญ ชั้นที่ 1 คือการบูรณาการกำลังระหว่างกองกำลังป้องกันชายแดนและตำรวจในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบและตั้งจุดสกัดในบริเวณจุดผ่านแดนธรรมชาติที่มีความเสี่ยง เช่น ช่องทางที่มักใช้ในการลักลอบขนยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมาย ชั้นที่ 2 หากพบสิ่งผิดกฎหมายหลุดรอดจากชั้นแรก ก็จะมีชั้นที่ 2 จะมีการใช้เครือข่ายสายข่าวและการประสานงานระหว่างตำรวจและฝ่ายปกครองเพื่อดำเนินการต่อเนื่องจนถึงการจับกุม
.
รักษพล พุ่มพฤกษ์
ข่าว/ภาพ
Share this content: