ทีมดับไฟป่าบ้านหนองไซ เจ้าหน้าที่เทศบาล ต.ป่าสัก และนายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ลำพูน ทีมว่าที่ ส.อบจ.ลำพูน ชมรมไฟป่าลำพูน กลุ่มจิตอาสาและตัวแทนจากภาคเอกชนกว่า 100 คน ต่างช่วยกันลำเลียงเครื่องเป่าใบไม้ คราดกวาดใบไม้ และไม้กวาดทางมะพร้าว เดินลัดเลาะขึ้นไปตามไหล่เขาหลังวัดพระพุทธบาทดอยไซ เป็นระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร เพื่อเริ่มทำแนวกันไฟที่ยอดเขาไล่ลงมาเพื่อป้องกันการเกิดไฟป่าในพื้นที่ป่าชุมชนบ้านหนองไซ ต.ป่าสัก อ.เมือง จ.ลำพูน ซึ่งเป็นป่าเต็งรัง มีต้นไม้ขนาดกลางและขนาดเล็กขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น ที่มีพื้นที่ 1,600 ไร่ หลังจากที่เริ่มเข้าสู่ฤดูแล้งใบไม้ในป่าเริ่มเปลี่ยนสีและร่วงหล่นลงมากลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีหากเกิดไฟป่าซึ่งจะส่งผลกระทบกับระบบนิเวศน์ในพื้นที่ป่าและชาวบ้านหนองไซ นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุของการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อีกด้วย
ด้านนายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ลำพูน พรรคประชาชน เปิดเผยว่า กิจกรรมทำแนวกันไฟป่าในพื้นที่ป่าชุมชนบ้านหนองไซ ซึ่งชาวบ้านที่นี่ได้มีการบริหารจัดการพื้นที่ป่าด้วยตนเองเป็นอย่างดี จึงได้เข้ามาพูดคุยกับชาวบ้านและและจัดอบรมให้ความรู้กบชาวบ้าน ผู้นำชุมชนและจิตอาสาในพื้นที่ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 ทั้งเรื่องทฤษฎีไฟป่าเบื้องต้น การระงับอัคคีภัย การทำแนวกั้นเขต การระงับเหตุไฟป่า เป็นต้น หลังจากนั้นได้ทีมงานร่วมกับชาวบ้าน เดินสำรวจเส้นทางและวางแผนการทำแนวกันไฟก่อน ซึ่งวันนี้เป็นครั้งแรกที่เราได้ คิกออฟ ให้ทุกภาคส่วนที่มีความสนใจและตระหนักถึงการป้องกันและแก้ไขปัญหา PM 2.5 ซึ่งช่วงฤดูแล้งพื้นที่จังหวัดลำพูนจะเกิดจุดฮอทสปอตบ่อยครั้งเนื่องจากเกิดไฟป่า ส่วนพื้นที่ป่าบริเวณนี้จากสถิติเคยเกิดจุด ฮอทสปอต สูงสุดถึง 202 ครั้ง นอกจากนี้ป่าผืนนี้ยังอยู่ติดกับบ้านเรือนชาวบ้านหนองไซ และยังติดกับศาสนาสถานที่สำคัญถึง 2 แห่ง คือวัดพระพุทธบาทดอยไซ และพระพุทธบาทพระธาตุอินแขวน เพราะฉะนั้นที่เราสามารถกันไฟป่าตรงจุดนี้ได้ก็จะสามารถป้องกันอัคคีกับกับบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่และศาสนสถานอีก 2 แห่งได้ซึ่งยังเป็นการป้องกันสาเหตุของการเกิด PM 2.5 ในพื้นที่และยังเป็นชุมชนตัวอย่างให้กับชุมชนอื่นในการป้องกันไฟป่าในพื้นที่ตนเองอีกด้วย ส่วนเป้าหมายของการทำแนวกันไฟในพื้นที่ป่าชุมชนฯจุดนี้มีพื้นที่ทั้งหมด 1,600 ไร่ วันนี้เราจะทำแนวกันไฟ 3 กิโลเมตร หลังจากนี้เราจะทะยอยทำแนวกันไฟอีกฝากหนึ่งของภูเขารวมทั้งหมด 5 กิโลเมตร ตามที่ได้สำรวจและวางแผนไว้
นายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก กล่าวเพิ่มเติมว่าหลังจากที่มีการทำแนวกันไฟในพื้นที่ป่าชุมชนบ้านหนองไซ ได้ตามแผนที่วางไว้แล้วหลังจากนั้น จะได้มีการจ้างให้ชาวบ้านในหมู่บ้านมาสำรวจและทำแนวกันไฟที่ทำไว้แล้ว ทุก 2 สัปดาห์ ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม-ปลายเดือนเมษายน เนื่องจากพบว่าใบไม้บางส่วนยังไม่ร่วงหล่นลงมาทั้งหมด ซึ่งตนได้สนับสนุนงบประมาณบางส่วนนอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากภาคเอกชนในพื้นที่ในการทำกิจกรรมดังกล่าว .
Share this content: