เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 13.00 น.ที่ห้องภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล ดร.มหานิยม เวชกามา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล เป็นครั้งแรกของการประชุมผู้ช่วย เปิดเผยถึงการประชุม กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน นายวิสารกล่าวว่า การประชุมได้ยึดหลักตามตามระเบียบ นร ว่าด้วยคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี พ.ศ. 2546 ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้:
- การประชุมของคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (กก.ผช.รมต.):
- ต้องประชุมเดือนละ 1 ครั้ง
- มีหน้าที่หลัก 3 ประการ:
- พิจารณาประเมินผลการดำเนินงานของ กก.ผช.รมต.
- เสนอแนะมาตรการที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน
- พิจารณาเรื่องอื่น ๆ ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
- การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ช่วยรัฐมนตรีในมิติต่าง ๆ:
- มิติด้านการเมือง: ประสานงานระหว่างนายกฯ และรัฐมนตรี, จัดทำเอกสารลายลักษณ์อักษร, ห้ามสั่งการข้าราชการ
- มิติด้านประชาชน: รับฟังข้อเสนอแนะ, ห้ามตกปากรับคำผูกพัน
- มิติด้านกระทรวง: เป็นผู้แทนรัฐมนตรีในการเจรจา, เข้าร่วมประชุมโดยขออนุญาต
- มิติด้านข้าราชการ: ประสานงานข้าราชการ, ห้ามสั่งการหรือก้าวก่ายการแต่งตั้งโยกย้าย
- มิติด้านสังคม: ปฏิบัติหน้าที่แทนรัฐมนตรีในงานพิธีการ, ห้ามเข้าเฝ้ารับเสด็จ
- มิติด้านต่างประเทศ: ต้องขอนโยบายจากรัฐมนตรี, ห้ามก่อพันธะผูกพัน
- ภารกิจเพิ่มเติมที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีอาจได้รับมอบหมาย:
- เสนอแนะประเด็นยุทธศาสตร์ในภารกิจของกระทรวง
- เร่งรัดและเสนอแนะการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน
- ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาของประชาชน
- ติดตามข้อสั่งการ ข้อหารือ และกระทู้ถาม
ดร.มหานิยม เวชกามา กล่าวอีกว่า ผู้ช่วยรัฐมนตรีมีบทบาทสำคัญในการประสานงานและติดตามการดำเนินงานในหลากหลายมิติ เพื่อให้นโยบายรัฐบาลมีการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม สำหรับตนต้องขอขอบคุณ ครม. โดยความเห็นชอบของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยตนจะตั้งใจทำงานอย่างสุดความสามารถตามที่ได้รับมอบหมาย
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีกับคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีที่ได้รับการแต่งตั้งในรัฐบาลปัจจุบัน โดยมองว่าตำแหน่งนี้มีความสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศและช่วยสนับสนุนการทำงานของรัฐมนตรีในการดำเนินนโยบายของรัฐบาล เช่น โครงการบ้านเพื่อคนไทย โครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน (ODOS) โครงการ Summer Camp และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ โดยขอให้ผู้ช่วยรัฐมนตรีร่วมมือกันทำงานในหลายมิติตามภารกิจของแต่ละกระทรวง และช่วยสร้างการสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องให้กับประชาชน เพื่อให้ทราบถึงความคืบหน้าของนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลกำลังดำเนินการ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้กรอบและนโยบายของรัฐบาล
“ที่ผ่านมามีการบิดเบือนข้อมูล ในเกมการเมืองต่างๆ ซึ่งอาจทำให้ข้อมูลที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ถูกเข้าใจผิดและผิดวัตถุประสงค์ โดยขอให้ทุกท่านไม่ควรมองข้ามเรื่องนี้ เพราะการบิดเบือนข้อมูลอาจทำให้ประชาชนไม่เข้าใจ ถึงความตั้งใจที่แท้จริงของรัฐบาล ขอเน้นย้ำให้ผู้ช่วยรัฐมนตรีมีบทบาทสำคัญในการอธิบายข้อมูลข่าวสารอย่างชัดเจน เพื่อให้ประชาชนเข้าใจได้ง่าย แม้การทำงานของแต่ละกระทรวงอาจแตกต่างกัน แต่ก็ต้องพยายามลดความคลาดเคลื่อนในการสื่อสารให้มากที่สุด เพื่อสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นต่อประชาชน” นายกรัฐมนตรี ย้ำ
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า บทบาทของผู้ช่วยรัฐมนตรีมีความสำคัญมากในการสนับสนุนรัฐมนตรีในทุกๆ ด้านเพื่อขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ผลักดันการพัฒนาประเทศ และช่วยประสานงานในรายละเอียดของแต่ละกระทรวง โดยเฉพาะการรวบรวมข้อมูล ปัญหา และข้อเสนอแนะจากการลงพื้นที่ เพื่อให้การดำเนินงานของรัฐมนตรีมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม นอกจากนั้น ผู้ช่วยรัฐมนตรีต้องให้ความสำคัญกับการเสนอยุทธศาสตร์และเร่งรัดการดำเนินนโยบายของแต่ละกระทรวง แม้ว่านโยบายบางนโยบาย อาจเผชิญกับอุปสรรคบ้าง แต่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันหาทางแก้ไข เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจน
นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ติดตามข้อสั่งการ นโยบาย ข้อหารือ และกระทู้ถามต่างๆ จากรัฐสภา ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงของตนเอง เพื่อให้รัฐมนตรีสามารถชี้แจงได้อย่างครบถ้วน สำหรับปีนี้ เป็นปีแห่งโอกาสและการกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงขอให้ทุกท่าน ให้ความสำคัญกับประเด็นเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก โดยแต่ละกระทรวงต้องเร่งผลักดันมาตรการที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและลดภาระของประชาชน พร้อมติดตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีอย่างใกล้ชิด//////////ดร.นิยม เวชกามา../.kao kon Esan.
Share this content: