



“คาราวานมาเหนือ” กระตุ้นการท่องเที่ยว เชื่อมโยง 4 จังหวัดเหนือตอนบน เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ เฮือนฮังต่อ กาแฟน่าน จังหวัดน่าน นายนิวัฒน์ งามธุระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานแถลวงข่าวโครงการ “คาราวานมาเหนือ” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนบูรณาการส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 มุ่งเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการเดินทางเชื่อมโยงในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน โดยมีนางสาวนพรัตน์ ศตะรัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่าน และ นางสาวกัญญ์ปภัส รัตนเรืองศิลป์ ผู้อำนวยการฝ่ายอำนวยการสำนักงานพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเมืองเก่าน่าน ร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย สำหรับโครงการ “คาราวานมาเหนือ” เป็นความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ตั้งแต่คาราวานท่องเที่ยว เส้นทางสร้างสรรค์ จนถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาดแบบครบวงจร ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : คาราวานมาเหนือ หรือ โทร 053 716 434
นายนิวัฒน์ งามธุระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า โครงการ “คาราวานมาเหนือ” เป็นความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัด และเผยแพร่วัฒนธรรมท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย
สำหรับจังหวัดน่าน เมืองเก่าที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา และเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยว ด้วยความงดงามของธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ สถาปัตยกรรมโบราณ และศิลปวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ วิถีชีวิตอันเรียบง่ายและเป็นมิตรของชาวเมืองทำให้น่านเป็นจังหวัดที่ใครมาเยือนแล้วต้องหลงรัก นอกจากเสน่ห์ของเมืองแล้ว น่านยังขึ้นชื่อเรื่องอากาศบริสุทธิ์ เพราะเป็นจังหวัดที่มีโรงงานอุตสาหกรรมน้อย ส่งผลให้มีอากาศที่สดชื่นเหมาะกับการพักผ่อน และดื่มด่ำกับธรรมชาติอันงดงาม ไม่ว่าจะเป็นอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ดอยเสมอดาว ดอยภูคา และน้ำตกสะปัน ซึ่งล้วนเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและสุขภาพ อีกทั้งวัดวาอารามในจังหวัดน่านก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญสำหรับผู้ที่สนใจศิลปะและประวัติศาสตร์ อย่างเช่น วัดภูมินทร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของภาพกระซิบรักบันลือโลก วัดพระธาตุแช่แห้งที่เปี่ยมไปด้วยความศรัทธา และวัดพระธาตุเขาน้อยที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองน่านจากมุมสูงได้อย่างสวยงาม
นอกจากนี้ อาหารเหนือของน่านก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็นลาบหมูสูตรดั้งเดิม ไก่ทอดมะแขว่นที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ แกงฮังเลรสเข้มข้น ความเป็นอยู่ของชาวน่านสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ เมืองแห่งนี้ยังคงเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมล้านนาไว้ได้เป็นอย่างดี นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นไปตามถนนที่เงียบสงบ ซึมซับบรรยากาศของเมืองที่ยังคงความดั้งเดิมเอาไว้ และเพลิดเพลินไปกับวิถีชีวิตของผู้คนที่อบอุ่นและมีน้ำใจ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับที่พักหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่โรงแรมหรู รีสอร์ทสไตล์ธรรมชาติ ไปจนถึงโฮมสเตย์ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวน่าน นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเลือกซื้อของฝากที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด เช่น เครื่องเงินเมืองน่านที่สืบทอดภูมิปัญญาหัตถกรรมมาตั้งแต่โบราณ ผ้าทอเมืองน่านที่โดดเด่นด้วยลวดลายและสีสันจากธรรมชาติ มะไฟจีนอบแห้งที่หอมหวานและมีคุณค่าทางโภชนาการ กาแฟน่านที่มีกลิ่นหอมและรสชาติเป็นเอกลักษณ์ และเกลือสินเธาว์จากอำเภอบ่อเกลือที่ผลิตจากบ่อเกลือโบราณกว่า 600 ปี ซึ่งเป็นสินค้าที่หาไม่ได้จากที่อื่น
ด้านนางสาวนพรัตน์ ศตะรัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่าน กล่าวถึง การเตรียมจัดกิจกรรม “คาราวานมาเหนือ” ภายใต้โครงการบูรณาการการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน) โดยกิจกรรมจะจัดขึ้นทุกสุดสัปดาห์ในเดือนมีนาคม 2568 ครอบคลุมทั้ง 4 จังหวัด เพื่อมุ่งโปรโมตเส้นทางท่องเที่ยวผ่านกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในภูมิภาค ผ่านอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง และนักเดินทางชื่อดังร่วมเดินทางในเส้นทางต่าง ๆ ได้แก่ จ. น่าน – แพร่ (7-9 มีนาคม 2568) นำโดย คุณลีโอ พุฒิ, คุณต้า เผ่าพล และคุณเร แม็คโดแนลด์ (รายการเร่ร่อน) จ.เชียงราย – พะเยา (14-16 มีนาคม 2568) นำโดย คุณเร แม็คโดแนลด์ จ.เชียงราย – พะเยา (21-23 มีนาคม 2568) นำโดย คุณภูริ หิรัญพฤกษ์ (รายการวิวไฟน์เดอร์) และจ.น่าน – แพร่ (28-30 มีนาคม 2568) : นำโดย คุณเบนซ์ ถาวร ภัสสรสิริกุล (เบนซ์ไกจิน – แบกเป้เที่ยวคนเดียว) ทั้งนี้ คาราวานจะเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้า และร้านอาหารสำคัญในพื้นที่ พร้อมเผยแพร่ข้อมูลการท่องเที่ยวผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อสร้างการรับรู้และส่งเสริมการเดินทางของนักท่องเที่ยวในอนาคตด้าน นางสาวกัญญ์ปภัส รัตนเรืองศิลป์ ผู้อำนวยการฝ่ายอำนวยการสำนักงานพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเมืองเก่าน่าน ได้กล่าวถึง สำนักงานพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเมืองเก่าน่าน เดินหน้าขับเคลื่อนน่านสู่เมืองสร้างสรรค์ ตามแนวทางของยูเนสโก ที่เน้นการพัฒนาร่วมกันระหว่างชุมชนท้องถิ่นและภาครัฐ เพื่อส่งเสริมศักยภาพของเมืองผ่านวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และภูมิปัญญาท้องถิ่น ผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ นำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมความคิดสร้างสรรค์และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ในปี 2566 ที่ผ่านมา องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ร่วมกับเทศบาลเมืองน่าน และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ได้ผลักดันให้ ตำบลในเวียง จังหวัดน่าน (Nan Old City) ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 100 แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนของโลก โดยองค์กร Green Destinations ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในประเด็น “การจัดการขยะภาคท่องเที่ยวด้วยกระบวนการทางสังคม” ส่งผลให้ขยะบริเวณตลาดข่วงเมืองน่านลดลงจาก 1-1.5 ตันต่อวัน เหลือเพียง 0.2 ตันต่อวัน และเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าชิงตำแหน่งเมืองสร้างสรรค์ในปี 2568 อพท. และเทศบาลเมืองน่าน ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่น ได้ดำเนินโครงการภายใต้แนวทางการท่องเที่ยวยั่งยืนโลก (GSTC) โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น สนับสนุนปราชญ์ ศิลปิน และครูภูมิปัญญาให้สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ไปสู่เยาวชน อีกทั้งยังมีการพัฒนาเครือข่ายเยาวชน และจัดตั้ง พื้นที่สร้างสรรค์ (Creative Space) เพื่อเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านศิลปะและหัตถกรรมท้องถิ่น น่านเต็มไปด้วยเสน่ห์ของงานหัตถกรรม เช่น โคมมะเต้า (โคมหม่าเต้า) ซึ่งเป็นโคมแขวนที่ใช้ประดับในงานประเพณีและสถานที่สำคัญ โดดเด่นด้วยโครงไม้ไผ่และกระดาษสา รวมถึงลวดลายประดับสีทองที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมี ชุมชนบ่อสวก ที่เป็นต้นแบบของวิถีชีวิตเรียบง่าย พร้อมกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (โฮงฮักสุขภาพ) ที่ใช้สมุนไพรท้องถิ่น เช่น ตะไคร้หอม ไพร และฟ้าทะลายโจร ในการดูแลสุขภาพ/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน
Share this content: