คมชัด AEC TV Online : :

รวดเร็ว ทันเหตุการณ์ สร้างสรรค์สังคม

ดร.มหานิยม เวชกามา นำ ผอ.สำนักพุทธ เจ้าพนักงานที่ดิน ลงพื้นที่ตรวจสอบวัด หลังขอออกโฉนดที่ดินให้วัดโพนม่วง (ที่พักสงฆ์)

ดร.มหานิยม เวชกามา นำ ผอ.สำนักพุทธ เจ้าพนักงานที่ดิน ลงพื้นที่ตรวจสอบวัด หลังขอออกโฉนดที่ดินให้วัดโพนม่วง (ที่พักสงฆ์) รอคอยนานกว่า 43 ปียังไม่ได้ตั้งเป็นวัด ล่าสุดมีทางออกให้คณะสงฆ์ พระสงฆ์จำวัดและชาวบ้านโพนม่วงเฮลั่นมีขั้นตอนเตรียมขึ้นทะเบียนวัดได้แล้ว

เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2568 ที่สำนักสงฆ์โพนม่วง บ้านโพนม่วง หมู่ 11 ตำบลโพธิไพศาล อำเภอกุสุมาลย์จังหวัดสกลนคร นายนิยม เวชกามา หรือ (ดร.มหานิยม) ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี) พร้อมด้วยนายอำพร กุดแถลง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสกลนคร นายศิริพงศ์ ปารุงธีรสิทธิ์ เจ้าพนักงานที่ดินสาขาอำเภอ กุสุมาลย์จังหวัดสกลนคร พร้องเจ้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบภายในวัดหลังยื่นเรื่องขอออกโฉนดที่ดินและขออนุญาตจัดตั้งเป็นวัด โดยมีพระครูอดุลย์ สุภกิจ เจ้าคณะตำบลโพธิไพศาล (เจ้าอาวาสวัดโพนแพง) และพระครูโอภาส ปัญญาพร รองเจ้าคณะตำบลโพธิไพศาล พระทองจันทร์ ชยธัมโม เจ้าอาวาสที่พักสงฆ์โพนม่วง ร่วมหารือ นายพิสมัย อามาตมนตรี ผู้ใหญ่บ้านโพนม่วง หมู่ที่ 11 พร้อมชาวบ้านกว่า 20 คน มาร่วมหารือเพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน

สืบเนื่องจากนายพิสมัย อามาตมนตรี ผู้ใหญ่บ้านโพนม่วง หมู่ที่ 11 ตำบลโพธิไพศาล อำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร หมู่บ้านดังกล่าวเป็นหมู่บ้้านเผ่าไทโส้ และได้รับเรื่องร้องเรียนจากพระภิกษุสงฆ์และชาวบ้านโพนม่วง หมู่ที่ 11 ตำบลโพธิไพศาล อำเภอกสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร ส่งหนังสือไปยังสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ช่วยเหลือเรื่อง การขอออกโฉนดที่ดิน ให้กับสงฆ์วัดบ้านโพนม่วง (ที่พักสงฆ์) เนื่องจากยังไม่มีเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนดที่ดิน ทำให้ไม่สามารถขออนุญาตสร้างวัดและตั้งวัดได้ตามกฎหมาย ถือเป็นปัญหามายาวนาน และยังไม่มีหนทางในการแก้ไข ซึ่งที่พักสงฆ์แห่งนี้เริ่มก่อสร้างและทำประโยชน์ร่วมกันของชาวบ้านในชุมชน ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2525 จนถึงปัจจุบันรวม 43 ปียังไม่สามารถขึ้นทะเบียนเป็นวัดได้ ซึ่งเป็นความเดือดร้อนและความประสงค์ของชาวบ้านที่อยากจะสร้างวัดและตั้งวัดให้ถูกต้องตามกฎหมาย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาที่พักสงฆ์แห่งนี้ชาวบ้านแล้วพุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันบริจาคทรัพย์ในการก่อสร้าง เสนาสนะ กฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ ห้องสุขา มีสภาพเป็นวัด มีพระภิกษุอยู่จำพรรษามานานแล้ว อีกทั้งทางภิกษุสงฆ์และชาวบ้านได้ร่วมกันซื้อที่ดินถวายที่พักสงฆ์แห่งนี้เพิ่มเติมเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่กว่า โดยเป็นที่ดิน 3 แปลง รวมๆเนื้อที่ 5 ไร่เศษ แต่ก็ติดขัดปัญหายังไม่สามารถโอนที่ดินจากเจ้าของกรรมสิทธิ์เดิมให้เป็นของวัดได้ทั้งที่ได้จ่ายเงินให้กับผู้ขายไปครบถ้วนแล้ว เนื่องจากวัดโพนม่วง (ที่พักสงฆ์) ยังไม่เป็นวัดไม่มีสถานะทางกฎหมาย พระภิกษุและชาวบ้านเกรงว่าหากปล่อยให้เป็นปัญหานานไปหากเจ้าของที่ดินตายไปอาจเป็นปัญหาในการขอโอนที่ดินได้ในอนาคต

ทั้งนี้ จากการไปติดต่อสอบถามสำนักงานที่ดินสกลนคร สาขากุสุมาลย์ เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินสาขากุสุมาลย์อาจไม่สามารถออกโฉนดได้ เนื่องจากแปลงที่ดินวัดโพนม่วง (ที่พักสงฆ์) ไม่มีหลักฐานประกอบการขอออกโฉนดที่ดิน เช่น ส.ค.1 หรือ น.ส.3 หรือเอกสารหลักฐานปรากฏแล้ว เป็นต้น และจากการโทรสอบถามประสานข้อมูลกับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสกลนครได้ตรวจสอบข้อมูลแล้วไม่พบและไม่ปรากฎหลักฐานข้อมูลเกี่ยวกับวัดโพนม่วง (ที่พักสงฆ์) แห่งนี้แต่อย่างใด ดังนั้น จึงไม่ใช่วัดหรือสำนักสงฆ์ตามกฎหมาย ด้วยเหตุ ดังกล่าวนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสกลนครจึงไม่สามารถที่จะไปดำเนินการขออออกโฉนดที่ดินให้ได้ แต่ตามจากหลักฐานรูประวางแผนที่แนบท้ายนี้และรูปแผนที่ดินข้างเคียง ได้มีการระบุไว้ชัดเจนว่าพื้นที่ตรงบริเวณดังกล่าวเป็นที่ “วัดโพนม่วง (ที่พักสงฆ์)” เป็นที่ว่างเปล่าที่มีการครอบครองสร้างเป็นวัดที่ยังไม่มีการออกโฉนดที่ดิน ซึ่งพื้นที่โดยรอบทุกด้านที่มีการออกเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนดที่ดินให้แก่ชาวบ้านหมดแล้ว ยังคงเหลือแปลงดินวัดโพนม่วง (ที่พักสงฆ์) ที่ยังไม่มีการออกเอกสารสิทธิ์โฉนดที่ดิน จากปัญหาและข้อติดขัดกฎหมายพระภิกษุหรือชาวบ้านจะขอออกโฉนดที่ดินให้กับวัดโพนม่วง (ที่พักสงฆ์) แห่งนี้ได้อย่างไร ใครจะเป็นผู้ไปขอออกโฉนดที่ดินได้ จึงจะสามารถนำไปสู่การออกโฉนดที่ดินเพื่อจะได้นำไปขออนุญาติและตั้งวัดได้ต่อไปด้วยปัญหาและเหตุขัดข้องดังกล่าวข้างต้น จึงขอความอนุเคราะห์ท่านได้พิจารณาหาแนวทางเพื่อช่วยเหลือวัดโพนม่วง (ที่พักสงฆ์) และหรือติดต่อประสานงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้มีการออกโฉนดพระภิกษุและชาวบ้านในพื้นที่จะได้มีโฉนดที่ดินใช้ประกอบการขออนุญาตสร้างวัดให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

ล่าสุดผลจากการหารือและนำแนะขั้นตอนการดำเนินการเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก ด้านนายนิยม เวชกามา ผู้ช่วยรัฐมนตรี กล่าวว่า เบื้องต้นตนได้หารือร่วมกับพระสงฆ์ ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านเป็นไปในทิศทางที่ดีมีการไขปัญหาให้ชาวบ้านได้ทันทีรวดเร็วตามนโยบายรัฐบาล น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ ผลจากการกับกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ของ รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เน้นย้ำมาตราการเพื่อแก้ปัญหาเรื่องที่ดินวัดและการขออนุญาตจัดตั้งวัด ตนเองในฐานะรับมอบหมายจากท่านรัฐมนตรีให้เข้ามาดูแลปัญหาในเรื่องนี้ ขอยืนยันว่าตั้งเป็นวัดโพนม่วงได้แน่นอนแต่ต้องทำตามกระบวนการให้ถูกระเบียบและกฎหมาย

ซึ่งพระสงฆ์และชาวบ้านได้รับการดูแลและชี้แจงขั้นตอนต่างๆได้อย่างรวดเร็วไขข้อข้องใจ จากทางผอ.สนง.พระพุทธศาสนาจังหวัดสกลนคร และการประสานงานกับหัวหน้าเจ้าพนักงานที่ดิน สาขาอำเภอกุสุมาลย์ ที่แนะนำให้วัด พระสงฆ์ ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านในหมู่บ้านโพนม่วง ที่มีอยู่ 42 หลังคาเรือน ประชากรทั้งหมด 189 คนให้ทำการเลือกตัวแทนในหมู่บ้าน 1 คนเพื่อใช้ชื่อบุคคลธรรมดาไปในการจดยื่นเพื่อขอออกโฉนดที่ดินที่มีอยู่ทั้งหมดกว่า 5 ไร่เศษ ทั้งที่ตั้งเดิมที่ซื้อเพิ่ม ที่รับการถวายบริจาคให้สร้างวัด ให้รวมเป็นแปลงเดียวทั้งหมดที่มีพื้นที่ 3 แปลง พร้อมแนะให้เตรียมเอกสารให้ครบไปยื่นต่อสำนักงานที่ดิน สาขากุสุมาลย์ เพื่อขออนุญาตให้ออกทำรังวัดที่ดินเพื่อออกโฉนดโดยเจ้าหน้าที่จะเร่งอำนวยความสะดวกอย่างเร่งด่วน ซึ่งหากทางวัดและชาวบ้านดำเนินการออกโฉนดที่ดินวัดเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วก็สามารถยื่นเรื่องในขั้นตอนต่อไปเพื่อขอให้ออกใบฎีกาจัดตั้งเป็นวัดได้โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสกลนครจะดำเนินการเสนอต่อไปได้ทันทีตามจุดประสงค์ของชาวบ้าน เป็นที่สิ้นการรอคอยการตั้งวัดให้จบหลังรอคอยมายาวนานกว่า 43 ปี ส่งผลให้คณะสงค์ ผู้นำหมู่บ้าน และชาวบ้าน เฮลั่นดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการดูแลอย่างจริงจัง พร้อมกล่าวขอบคุณผู้ช่วยรัฐมนตรีและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่เข้ามาแก้ปัญหาให้ในทันที/////////ดร.นิยม เวชกามา../.kao kon E san..

Tags

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

About Author

รวดเร็ว ทันเหตุการณ์ สร้างสรรค์สังคม

ขอต้อนรับสู่ คมชัด AEC TV Online ติดต่อโฆษณา 0804240877

Latest Posts

Tags