




โดยการอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 , ,พล.ต.ต.พิเชษฐ์ จีระนันตสิน รอง ผบช..5,พล.ต.ต.ธนรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รอง ผบช.ภ.5 ,พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5 ,พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบช.ภ.5 ผบก.สส.ภ.5
เมื่อวันที่ 19 ก.พ.2568 เวลา 06.00 น. บก.สส.ภ.5 ปิดล้อมตรวจค้นเพื่อจับกุม กลุ่มเครือข่ายอาชญากรรมทางเทคโนโลยี “เครือข่ายกลุ่มกดเงิน” ในพื้นที่ ภาค 5 (จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย)
ด้วยตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนภาค 5 นำโดย พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 พร้อมชุด PCT ภาค 5 และ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.ภ.5 ได้รับการประสานข้อมูลจากทีมสืบสวนทุจริตด้านดิจิทัล ฝ่ายป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ทราบว่ามีบัญชีธนาคารที่ถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศในรูปแบบของการหลอกลวงออนไลน์ จำนวน 93 คดี (ทั่วประเทศ) และมีการถอนเงินผ่านตู้กดเงินสด ATM อยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก มีบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องมีเงินหมุนเวียนกว่า 24 ล้านบาท และยังพบว่ากลุ่มบัญชีดังกล่าวถูกนำไปใช้ในการหลอกลวงผู้เสียหายในคดีของ สภ.เมืองลำพูน จังหวัดลำพูนอีก 1 คดี ซึ่งเป็นคดีประเภทหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ ที่ไม่มีลักษณะเป็นขบวนการ จากการรวบรวมข้อมูลการสืบสวนสามารถพิสูจน์ทราบกลุ่มคนร้ายซึ่งมีหน้าที่จัดการด้านการเงินเป็นขบวนการเปิดบัญชีม้า และกลุ่มม้ากดเงินที่ได้จากการกระทำความผิด จำนวน 6 ราย และศาลจังหวัดลำพูน ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 6 ราย ผลการดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นพร้อมกัน ขอรายงานผลการปฏิบัติดังต่อไปนี้ คือ
รายที่ 1 ตรวจค้นบ้านหมู่ 5 ต.สันป่าเปา อ.สันทราย จว.เชียงใหม่ ตามหมายค้นของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ ค55/2568 พบตัว น.ส.ดวงกมล (สงวนนามสกุล)อายุ 18 ปี เศษ สัญชาติ เมียนมา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล จังหวัดลำพูน ฐานความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน”
ตรวจยึด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ,รถยนต์เก๋ง 1 คัน,เสื้อผ้าที่ใช้กดถอนเงิน
รายที่ 2 ตรวจค้นบ้าน ม.4 ต.สันป่าเปา อ.สันทราย จว.เชียงใหม่ ตามหมายค้นของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ ค.53/2568 พบตัว น.ส.จอ ไม่มีนามสกุล สัญชาติเมียนม่า อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลำพูน จ.69/2568 ลง 14 ก.พ.2568 ฐานความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน”
ตรวจยึด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง,สมุดบัญชีธนาคาร 9 เล่ม ,บัตรเอทีเอ็ม 8 ใบ,ชุดที่ใช้ในการกดเงินสด 1 ชุด ,รถจักรยานยนต์ 1 คัน,เงินสดประมาณ 1,600,000 บาท
รายที่ 3 ตรวจค้นบ้าน ม.10 ต.สันนาเม็ง อ.สันทราย จว.เชียงใหม่ ตามหมายค้นของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ ค.54/2568 พบตัว นายศร (สงวนนามสกุล ) อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลำพูน จ.66/2568 ลง 14 ก.พ.2568 ฐานความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน”
ตรวจยึด โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง,สมุดบัญชีธนาคาร 26 เล่ม,บัตรเอทีเอ็ม 1 ใบ,เอกสารสลิบฝากเงิน จำนวน 5 ฉบับ,ซิมการ์ด 2 อัน,กระเป๋าใส่เงิน 1 ใบ
รายที่ 4 ตรวจค้นจับกุม น.ส.ณัฐณิชา (สงวนนามสกุล ) อายุ 22 ปีที่อยู่หมู่ที่ 2 ต.โรงช้าง อ.ป่าแดด จว.เชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลำพูน จ.64/2568 ลง 14 ก.พ.2568 ฐานความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน”
ตรวจยึด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
รายที่ 5 เมื่อวันที่ 18 ก.พ.2568 จับกุม นายเสาร์คำ (สงวนนามสกุล )อายุ 33 ปี ที่อยู่หมู่ที่ 11 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จว.เชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 68/2568 ลงวันที่ 14 ก.พ.2568 ฐานความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน” ตรวจยึด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ,ชุดใส่กดเงิน 1 ชุด
รายที่ 6 เมื่อวันที่ 17 ก.พ.2568 จับกุม น.ส.วิไล (สงวนนามสกุล ) อายุ 29 ปี ที่อยู่ หมู่ที่ 1 ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จว.เชียงใหม่ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 65/2568 ลงวันที่ 14 ก.พ.2568 ฐานความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน” ตรวจยึด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
จากการซักถามขยายผลทราบว่าผู้ถูกจับกลุ่มดังกล่าวให้การสอดคล้องกันว่า ได้พบการโฆษณาผ่านหารายได้เสริมจากทางออนไลน์ โดยมี sms เข้ามาที่โทรศัพท์เกิดความสนใจ และต่อมาได้ใช้แอปพลิเคชั่นเทเลแกรม พูดคุยกับผู้ใช้เทเลแกรมชื่อบัญชี “นักทำลายใต้หว่างขา” จึงเริ่มพูดคุยและตกลงรับทำงานโดยการกดเงินสดออกจากบัตรเอทีเอ็ม โดยจะได้รับค่าตอบแทนจากการกดเงินสด จำนวน 1 เปอร์เซ็นต์จากยอดกดเงิน เฉลี่ยจะกดครั้งละ 500,000-600,000 บาท มีรายได้ครั้งละประมาณ 5,000–6,000 บาท โดยเริ่มทำงานตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย.-ธ.ค.2567 เมื่อกดเงินสดมาแล้วจะฝากต่อไปยังบัญชีที่ทางผู้ใช้ชื่อบัญชีเทเลแกรม “นักทำลายใต้หว่างขา” แจ้งให้ทราบ เมื่อไล่เส้นทางการกดเงินพบว่า เงินจำนวนดักกล่าวถูกกดออกบริเวณพื้นที่ อ.แม่สาย จว.เชียงราย และทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ที่กดเงินสดออกมาคือนายนายเสาร์ (สงวนนามสกุล )เมื่อซักถามขยายผล นายเสาร์ฯ แจ้งว่าได้รับว่าจ้างจากนายสุข เป็นชาวพม่า ชื่อจริง Mr.Aug Thu Hein มีหมายจับ สภ.แม่แตง จว.เชียงใหม่ อาศัยอยู่ฝั่งท่าขี้เหล็ก หลังจากกดเงินสดแล้ว นายสุข จะเดินทางข้ามมารับเงินสดด้วยตนเอง และนำเงินข้ามฝั่งไปให้บอสฝั่งประเทศพม่าต่อไป
กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.ภ.5 จึงทำการปิดล้อมตรวจค้นจับกุม กลุ่มเครือข่ายอาชญากรรมทางเทคโนโลยี “แก๊งกดเงินข้ามชาติ” ในพื้นที่ ภาค 5 (จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย) นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง หลักฐาน ดำเนินการขยายผล ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
นิวัตร ธาตุอินจันทร์ เชียงใหม่
Share this content: