วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568
ที่บริเวณหอประชุมที่ว่าการอำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ กลุ่มตัวแทนเกษตรกรในพื้นที่อำเภอพิชัยกว่า 200 คน นำโดยนายจีรพงศ์ แป้นเพชร แกนนำเกษตรกรรวมตัวชุมนุมและยื่นหนังสือผ่านนายนิตย์นิชัย บุญสุวรรณ นายอำเภอพิชัย เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวอำเภอพิชัย โดยมีการเขียนป้ายเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยข้อความสะท้อนถึงความเดือดร้อนในเรื่องของสถานการณ์ราคาข้าวเปลือก มันสำปะหลัง และโค-กระบือ
.
ขณะที่นายจีรพงษ์ แป้นเพชร แกนนำตัวแทนเกษตรกร เปิดเผยว่า ในปัจจุบันสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกตกต่ำมาก น้ำหนักอยู่ที่ราคา 6000 – 7000 บาทต่อตัน ราคามันสำปะหลังอยู่ที่ 1500 บาทต่อตัน และราคาโค-กระบือ ตกต่ำเกิน 50% ทำให้เกษตรกรชาวนาชาวไร่และเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกษตรกรได้เรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือและแทรกแซงราคาข้าว มันสำปะหลัง และโค-กระบือ โดยมีข้อเรียกร้องให้รัฐบาลประกันราคาข้าวเปลือก ข้าวจ้าวอยู่ที่ราคา 12,000 บาทต่อตัน ซึ่งหากเกษตรกรขายข้าวไปแล้วให้รัฐบาลชดเชยส่วนที่ขาดไป ให้รัฐบาลควบคุมต้นทุนการผลิตโดยการควบคุมราคาปุ๋ย ราคายา และราคาน้ำมันเพื่อเป็นการลดต้นทุนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวรวมถึงให้รัฐบาลแทรกแซงราคามันสำปะหลังโดยเปอร์เซ็นต์แป้ง 25% ราคา 2.50 บาทต่อกิโลกรัม ผ่านกลไกของสหกรณ์ โดยหากเกษตรกรขายมันสำปะหลังไปแล้วให้รัฐบาลชดเชยส่วนที่ขาดไป นอกจากนี้ขอให้รัฐบาลแทรกแซงราคาโค-กระบือที่ตกต่ำให้มีราคาสูงขึ้น เนื่องจากเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนมาก จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกรอย่างจริงจังและเร่งด่วน
.
นอกจากนี้ กลุ่มตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่มาร่วมยื่นหนังสือต่างมีความเดือดร้อนเช่นกัน เนื่องจากราคาข้าวมีราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งสวนทางกับราคายา ราคาปุ๋ยที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวต้องไปกู้หนี้ยืมสินจนทำให้เป็นหนี้เพิ่มมากขึ้น ถ้าหากรัฐบาลได้มีมาตรการเร่งเข้ามาช่วยเหลือในราคาข้าวก็จะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
.
ด้านนายนิตย์นิชัย บุญสุวรรณ นายอำเภอพิชัย กล่าวว่า ภายหลังจากรับหนังสือจากทางตัวแทนเกษตรกรอำเภอพิชัยจะนำหนังสือดังกล่าวมอบไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องและประสานงานสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุตรดิตถ์ในการส่งมอบเรื่องปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรในพื้นที่ไปยังส่วนกลางและส่งต่อไปยังรัฐบาล ในส่วนของการติดตามสถาการณ์ปัญหาราคาสินค้าเกษตร หลังจากนี้จะได้ทำการลงพื้นที่เพื่อชี้แจ้งมาตรการของทางรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้กับประชาชนได้รับทราบ ซึ่งในขณะนี้ในพื้นที่อำเภอพิชัยอยู่ในช่วงที่ข้าวยังไม่ออกผลผลิตอย่างเต็มที่ คาดว่าคงต้องรอในส่วนของมาตรการที่ชัดเจนจากทางหน่วยงานและรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชนต่อไป
นาคา คะเลิศรัมย์/รายงาน
Share this content: