







วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ที่แม่น้ำซองกาเรีย ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี พบกล้วยน้ำ ขึ้นอยู่กลางแม่น้ำซองกาเรียไเป็นจำนวนมาก เตรียมเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว
กล้วยไม้มีเหง้า แตกกอหนาแน่น สูงได้ถึง 1 ม. มีขนสั้นนุ่มตามลำต้นช่วงบน ช่อดอก กลีบเลี้ยงด้านนอก รังไข่และก้านดอก ใบเรียงสลับ มี 4–9 ใบ ไร้ก้าน มีกาบที่โคน แผ่นใบรูปไข่ถึงรูปใบหอก ยาวได้ถึง 12 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกที่ยอด ยาวได้ถึง 20 ซม. ส่วนมากมี 3–4 ดอก หรือถึง 14 ดอก ดอกสีเหลืออมเขียว ขอบกลีบสีน้ำตาลแดง ก้านดอกยาว ใบประดับคล้ายใบ รูปรีถึงรูปใบหอก ยาว 0.5–5 ซม. ใบประดับช่วงล่างยาวกว่าช่วงบน กลีบเลี้ยงรูปใบหอก ยาว 0.8–1.5 ซม. รูปคล้ายเรือ กลีบคู่ข้างกว้างกว่ากลีบหลังเล็กน้อย กลีบดอกโค้งเข้า รูปขอบขนานหรือรูปใบหอก ยาว 0.7–1.5 ซม. ปลายมน กลีบปากยาว 0.8–1 ซม. ส่วนโคน (hypochile) แผ่กว้าง แยก 2 พู รูปกลม ๆ เบี้ยว ยาว 3–4 ซม. ลายกลีบสีน้ำตาลแดง โคนมีสัน 2 สันติดกัน มีต่อมและรอยแคลลัสรูปขอบขนาน 2 รอย ช่วงปลายกลีบ (epichile) ยื่นยาวรูปขอบขนานหรือรูปใบหอกแกมรูปไข่กลับ ยาว 5–6.5 มม. มีสันตามขอบ เหนือโคนมีรอยแคลลัสรูปคล้ายหยดน้ำ 2 รอย เส้าเกสรพับงอกลับเล็กน้อย ยาว 5.5–6 มม. กลุ่มเรณูมี 2 กลุ่ม ยอดเกสรเพศเมียโคนเว้า มีจงอยเล็กที่สร้างเมือกเหนียว รังไข่และก้านดอกยาว 1–1.7 ซม. ผลแห้งแตก รูปกระสวย ยาวประมาณ 1.5 ซม. มี 6 สันตามยาว ก้านผลยาวประมาณ 1 ซม.
พบที่พม่า ลาว และเวียดนามตอนบน ในไทยพบทางภาคเหนือที่น่านและตาก และทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ที่กาญจนบุรี ขึ้นตามโขดหินริมลำธารหรือในลำธารที่น้ำท่วมถึงในป่าดิบแล้ง ความสูง 100–300 เมตร เป็นกล้วยไม้ทนน้ำท่วม (reophyte)
สกุล Epipactis Zinn อยู่ภายใต้วงศ์ย่อย Epidendroideae มีประมาณ 25 ชนิด พบทั้งในยุโรป แถบเมดิเตอร์เรเนี่ยน เอเชีย และอเมริกาเหนือ ในไทยมีเพียงชนิดเดียว ชื่อสกุลมาจากชื่อกรีกโบราณของพืชที่ทำให้นมค้น ซึ่ง Theophrastus นักธรรมชาติวิทยาชาวกรีก เป็นผู้เรียก
ชื่อพ้อง Epipactis atromarginata Seidenf.
กล้วยไม้น้ำ: กล้วยไม้ขึ้นบนก้อนหินแตกกอหนาแน่นในลำธาร ช่อดอกออกที่ปลายลำต้น แบบช่อกระจะ กลีบปากส่วนโคน (hypochile) แยกเป็นพูในแต่ละข้าง และส่วนปลายกลีบ (epichile)ที่ยื่นยาวออก
เกษร เสมจันทร์กาญจนบุรี
(ภาพ จากนักข่าวกลางดง)
Share this content: