ปทุมธานี เกษตรกร 100 ล้านอยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดายปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น

พบกันวันหยุด วันที่ 1 มีนาคม 2568
ดั่งคำสุภาษิตที่ว่าคนขยันอยู่ที่ไหนก็ไม่ลำบาก วันนี้จะมากล่าวถึง เกษตรกรในจังหวัดปทุมธานี ฯ ที่เป็นหญิงแกร่งในวัย 40 ปีที่ไม่ย่อท้อต่อโชคชะตาหนึ่งสมองสองมือของเกษตรกรผู้บากบั่นมุมานะ ที่เริ่มต้นจากสูนย์ลองผิดลองถูกต้องล้มลุกคลุกคลานสู้ชีวิตมาไม่น้อย หลังจากได้รวบรวมพละกำลังอย่างตั้งใจลุกขึ้นสู้ไม่ยอมย่อท้อต่อโชคชะตาโดยใช้เวลาเพียง 3 ปีกว่าจากการเลี้ยงกระบือ ( ควาย )ที่เราๆท่านๆมองว่าด้อยคุณค่า แต่เกษตรกรท่านนี้ได้ใช้ความมานะบากบั่นตั้งอกตั้งใจมุ่งมั่นพัฒนาสายพันธ์ควายที่เลี้ยงไว้ จากควายบ้านๆที่ดูด้อยราคาปัจจุบันได้พัฒนาสายพันธุ์ควายพื้นบ้านสู่ถนนควายสายประกวด มีรูปร่างอัตลักษณ์สูงใหญ่ ได้สัดส่วน มีอัตลักษณ์ที่สวยงามอายุ 32 เดือนมีน้ำหนักตัวถึง 1,000 กว่ากิโลกรัมเดินสายส่งควายเข้าร่วมงานประกวดคว้าถ้วยรางวัลชนะเลิศของสนามแข่งขันควายประกวดของหลายๆจังหวัดของประเทศไทย จนทำให้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงการคนเลี้ยงควายสายประกวด มีค่าตัวหลายล้านบาท
ได้คว้าถ้วยรางวัลชนะเลิศพระราชทาน ฯ พร้อมใบประกาศตั้งแต่ลำดับที่ 1 – 2 – 3 มากมายหลายสนามของรายการแข่งขันงานประกวดควายที่สำคัญหลายจังหวัดที่ผ่านมาซึ่งถือว่าเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงควายที่หน้ายกย่องสนับสนุนส่งเสริม เป็นผู้ที่สร้างชื่อเสียงให้กับเกษตรกรของจังหวัดปทุมธานี ทำให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในวงการคนเลี้ยงควาย ถือว่าเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงควายรายใหญ่ของจังหวัดปทุมธานีเลยก็ว่าได้นะครับ !

จากการเปิดเผยของนางสาวเฟื่องฟ้า โนพิวงส์อายุ 40 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ 8 ตำบลพืชอุดม อำเภอลำลูกกาจังหวัดปทุมธานี ฯ เป็นที่ตั้งฟาร์มเลี้ยงควาย มีชื่อว่า(นายน้อยฟาร์ม) ที่ตั้งอยู่บริเวณริมถนนลำลูกกาคลอง 13 ได้เปิดเผยถึงที่มาที่ไปและได้เล่าประวัติถึงประสบการณ์จากการเลี้ยงควายให้ฟังว่า ก่อนหน้าเกือบ 10 ปีที่ผ่านมาต้นได้ซื้อควายมาเลี้ยงโดยเป็นควายพันธุ์พื้นบ้านธรรมดาทั่วไป และเล็งเห็นว่าควายที่เลี้ยงนั้นได้ให้ผลผลิตตอบแทนน้อยมาก เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาตนได้มีความคิดริเริ่มที่จะมองเห็นความแตกต่างจากการพัฒนาสายพันธุ์ควายที่มีอยู่เดิมให้พัฒนายิ่งขึ้น จากนั้นตนได้ลงทุนซื้อพ่อพันธุ์ควายมาจุดประสงค์ก็เพื่อจะนำมาเป็นพ่อพันธุ์ภายในฟาร์มของตนเอง โดยได้มีการผสมพันธุ์และได้ตกผลผลิตได้ลูกควายที่ผสมพันธ์เองภายในฟาร์มจำนวน 3-4 ตัวจากนั้นก็ได้พัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาเรื่อยๆ จนทำให้ปัจจุบันมีควายที่เลี้ยงอยู่จำนวน 70 กว่าตัวภายในฟาร์ม และได้คัดเลือกควายที่มีอัตลักษณ์ตรงตามลักษณะของควายที่จะส่งเข้าประกวด โดยตัวที่ 1 ชื่อว่าบิ๊กภูผา อายุ 32 เดือนมีน้ำหนักตัวกว่า 1,000 กิโลกรัม ที่ส่งเข้าประกวดที่จังหวัดขอนแก่นได้รับรางวัลลำดับที่ 3 ของจังหวัดขอนแก่น ฯ ตัวที่ 2 ชื่อว่าลีโอ ที่ส่งเข้าสนามแข่งขันควายในรุ่นอายุ 11-12 เดือน ที่ส่งเข้าประกวดโดยได้รับรางวัลที่ 5 ถึง 2 สนาม ส่วนตัวที่ 3 ชื่อว่าก้าวหน้า มีอายุเพียง 13 เดือนส่งเข้างานประกวดควายที่จังหวัดขอนแก่นเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้รับถ้วยรางวัลชนะเลิศลำดับที่ 1ในรุ่นความสูงไม่เกิน 140 เป็นถ้วยรางวัลงานส่งเสริมเพิ่มผลผลิตและการสร้างมูลค่าของโคกระบือที่จังหวัดสุรินทร์ จากวันนั้นถึงวันนี้โดยใช้เวลาเกือบ 10 ปีที่ตนนั้นมุ่งมั่นพัฒนาสายพันธุ์ควายให้ได้เป็นที่ต้องการดั่งที่ได้ตั้งใจไว้ ถือว่าประสบผลสำเร็จแล้วกว่าครึ่ง และหลังจากนี้ตนจะได้มุ่งมั่นพัฒนาสายพันธุ์ให้ดียิ่งๆขึ้นไป ตนพร้อมที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้และพร้อมที่จะสนับสนุนส่งเสริมเกษตรกรให้เป็นแหล่งเรียนรู้ และส่งเสริมเกษตรกรอีกทางในการเลี้ยงกระบือ( ควาย)ให้ได้สายพันธุ์ที่ดีมีคุณภาพ หากท่านใดที่สนใจที่มีความประสงค์จะเดินทางมาดูมาชมบรรยากาศภายในฟาร์ม เพื่อศึกษาหาความรู้ในอาชีพในด้านการเลี้ยงควายและมีความประสงค์จะพัฒนาสายพันธุ์ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ (095 -3248812 นายฮ้อยเก๋ )ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมที่จะให้คำปรึกษาเพื่อเป็นแนวทางเพื่อนำไปเป็นเป็นอาชีพที่มั่นคงต่อไป !

ภาพ/ข่าว “สุรสิทธิ์ แห่ล้อม ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปทุมธานี ฯ