อยุธยา – ป.ป.ช.บูรณาการเครือข่ายเฝ้าระวังความเสี่ยงการทุจริตรถบรรทุกน้ำหนักเกิน พบสถิติมีรถบรรทุกน้ำหนักเกินปีละกว่า 60 คัน









วันที่ 3 มีนาคม 2568 ป.ป.ช. อยุธยา นำโดยนางสาวภัคศรัณย์ โอสถสงเคราะห์ หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต ป.ป.ช.อยุธยา บูรณาการร่วมกับ ป.ป.ช.ระดับภาค ชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต ฯ โค้ช STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต ฯ กรมทางหลวง และ กอ.รมน.อยุธยา ลงพื้นที่สถานีตรวจสอบน้ำหนักอยุธยา (ขาเข้า) และสถานีตรวจสอบน้ำหนักบางปะอิน (ขาเข้า) ดำเนินกิจกรรมจับตามองและแจ้งเบาะแส เพื่อติดตามความเสี่ยงการทุจริตกรณีรถบรรทุกน้ำหนักเกิน
นายชานนท์ สุวรรณาภินันท์ ประธานชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ทั้ง 2 สถานี พบว่า ทั้ง 2 ด่าน ใช้ระบบเครื่องชั่งที่สามารถชั่งน้ำหนักได้ในขณะรถวิ่ง (Weight in Motion System : WIM) เพื่อตรวจสอบ และควบคุมน้ำหนักรถบรรทุกที่จะเข้ามาใช้ถนน จำนวนรถเข้าชั่งที่สถานีในปี 2567 ของสถานีตรวจสอบน้ำหนักอยุธยา (ขาเข้า) จำนวน 208,005 คัน มีรถบรรทุกน้ำหนักเกิน 33 คัน ส่วนสถานีตรวจสอบน้ำหนักบางปะอิน (ขาเข้า) 745,636 คัน มีรถบรรทุกน้ำหนักเกิน 19 คัน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าสถานีตรวจสอบน้ำหนักอยุธยา (ขาเข้า) มีระบบเครื่องชั่งน้ำหนักระบบ WIM ครบทั้ง 2 ช่องจราจร สามารถตรวจน้ำหนักได้ครอบคลุม แต่สถานีตรวจสอบน้ำหนักบางปะอินมีระบบเครื่องชั่งน้ำหนักเพียง 2 ช่องจราจร ยังขาดอีก 2 ช่องจราจร ล่าสุด ทางสถานีได้ทำเรื่องไปยังส่วนกลางเพื่อขอซื้อเพิ่มเติมแล้ว อย่างไรก็ตาม ขอฝากไปยังหน่วยงานส่วนกลางให้พิจารณาต่อเรื่องดังกล่าวด้วย
ด้านนายปรากรณ์ พิมพ์เสนา หัวหน้าสถานีตรวจสอบน้ำหนักบางปะอิน ขาเข้า กล่าวว่า ทางสถานีฯ มีแนวปฏิบัติในการตรวจสอบและเข้มงวดกวดขันรถบรรทุกเพื่อไม่ให้มีน้ำหนักเกิน โดยให้รถบรรทุกที่วิ่งผ่านสถานีตรวจสอบน้ำหนักจะต้องเข้าชั่งน้ำหนักทุกคัน และในเส้นทางสายรอง หรือเส้นทางที่ไม่มีสถานีตรวจสอบน้ำหนัก จะมีเจ้าหน้าที่คอยออกสุ่มตรวจสอบตามเส้นทางต่างๆ หรือตามที่ได้รับการร้องเรียน พร้อมกันนี้ สถานีฯ ยังได้ทำสถิติรายงานจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินในแต่ละปีมีกว่า 50 ราย ซึ่งมีทั้งจับกุมในพื้นที่และนอกพื้นที่ ซึ่งถ้าตรวจพบรถบรรทุกน้ำหนักเกินจะส่งเรื่องไปยังสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ทันที เพื่อส่งฟ้องศาล โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมระบุ จากนี้ไปอยากให้มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อเอาผิดกับผู้ประกอบการโดยตรงกรณีรถบรรทุกน้ำหนักเกินหรือแหกด่าน ไม่ใช่เพียงเฉพาะผู้ขับขี่เท่านั้น
เดชา อุ่นขาว รายงานจากอยุธยา
Share this content: