เปิดยิ่งใหญ่ตระการตา “ประเพณีหกเป็งนมัสการพระมหาธาตุภูเพียงแช่แห้ง” – ชุมชนวัดพระธาตุแช่แห้ง สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชนยลวิถี” ประจำปี 68 “พลภูมิ” ชู 2 เสน่ห์เมืองน่าน เป็นซอฟต์พาวเวอร์ส่งเสริมท่องเที่ยววัฒนธรรม ดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างรายได้สู่ชุมชน


เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม มอบหมายให้ นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีหกเป็งนมัสการพระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้ง ประจำปี 2568 และพิธีเปิดชุมชนวัดพระธาตุแช่แห้ง (บ้านหนองเต่า) 1 ใน 10 สุดยอดชุมชน ต้นแบบ “เที่ยวชุมชนยลวิถี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมี นางวิไลวรรณ บุดาสา รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวต้อนรับ
และมีพระราชนันทวัชรบัณฑิต รองเจ้าคณะจังหวัดน่าน เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแช่แห้ง (พระอารามหลวง) และในฐานะประธานการจัดงานฯ นายสถาพร เที่ยงธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม นายพงศกร รัตนเรืองวัฒนา ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม นางภัทรภร ชัยวัฒนกุล วัฒนธรรมจังหวัดน่านและหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน เครือข่ายทางวัฒนธรรมและสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ วัดพระธาตุแช่แห้ง (พระอารามหลวง) อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน
นายพลภูมิ กล่าวว่า จังหวัดน่านร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดน่าน วัดพระธาตุแช่แห้ง (พระอารามหลวง) วิทยาลัยสงฆ์นครน่านเฉลิมพระเกียรติฯ ส่วนราชการและภาคเอกชน จัดงานประเพณีหกเป็งนมัสการพระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้ง ประจำปี 2568 ระหว่างวันที่ 7 – 13 มีนาคม 2568 เพื่อส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับประชาชนในจังหวัดน่านโดยใช้ทุนทางวัฒนธรรมเป็น Soft Power ให้ต่อยอดเศรษฐกิจและส่งเสริมให้เกิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กิจกรรมภายในงาน อาทิ แสดงกลองสะบัดชัย การแสดงไลท์ แอนด์ ซาวด์ ตำนานเล่าขานเมืองน่าน ขบวนราชรถแห่น้ำสรงพระราชทานพระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้ง พิธีบวงสรวงพระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้ง ขบวนแห่น้ำสรงพระราชทาน ผ้าไตรพระราชทานและผ้าห่มมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้งพระราชทาน ขบวนแห่คัวตาน 15 อำเภอ การแสดงศิลปะวัฒนธรรมของอำเภอต่างๆ การสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่นชุมชนยลวิถีวัดพระธาตุแช่แห้ง (บ้านหนองเต่า) และกาดหมั้วคัวฮอม Creative Space ประกวดแข่งขันตีกลองยาว กิจกรรมสอยดาว การประกวดแข่งขันตีกลองแอว และประกวดบอกไฟดอก เป็นต้น
นายพลภูมิ กล่าวว่า นโยบายนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม มุ่งขับเคลื่อน Soft Power โดยเฉพาะด้านเฟสติวัล – เทศกาลประเพณีและด้านท่องเที่ยวสนองนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเป้าหมายของ วธ. ดำเนินการส่งเสริมคุณค่าและมูลค่าเทศกาลประเพณีของชาติและเทศกาลอื่นๆ ด้านวัฒนธรรมให้ประเทศไทยเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้สู่ชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศไทยในเวทีนานาชาติ โดยมุ่งส่งเสริมเทศกาลประเพณีไทยเพื่อยกระดับสู่ระดับชาติและนานาชาติมาต่อเนื่อง ประกอบกับปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 วธ. ดำเนินการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสร้างสรรค์ในชุมชนภายใต้การดำเนินโครงการคัดเลือก 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ได้คัดเลือกชุมชนต้นแบบระดับจังหวัดที่มีศักยภาพ ความพร้อมด้านการท่องเที่ยวในทุกมิติ ปีละ 10 ชุมชน พร้อมยกย่องเชิดชูเกียรติ และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสร้างสรรค์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยปัจจุบันมีสุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” 40 ชุมชนทั่วประเทศ
ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ วธ. กล่าวว่า องค์พระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้งเป็นพระธาตุเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดน่าน สร้างขึ้นปี 1896 และปี 2568 องค์พระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้ง มีอายุกาลครบ 672 ปี ประเพณีหกเป็งนมัสการองค์พระธาตุแช่แห้ง หรือไหว้สาพระธาตุแช่แห้ง ถือว่าเป็นประเพณีที่ต้องส่งเสริม เพราะเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ส่วนชุมชนวัดพระธาตุแช่แห้ง (บ้านหนองเต่า) เป็น 1 ใน 10 สุดยอดชุมชน ต้นแบบ “เที่ยวชุมชนยลวิถี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เป็นชุมชนที่มีศักยภาพและความพร้อมในการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสร้างสรรค์ในทุกมิติ มีความเข้มแข็งของชาวชุมชนที่ร่วมมือกันผลักดันและยกระดับแหล่งเรียนรู้ภายในชุมชน ด้วยการรักษาสิ่งเดิมเพิ่มเติมสิ่งใหม่ๆ จนเกิดการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ มีเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ดี
นายพลภูมิ กล่าวอีกว่า ชุมชนวัดพระธาตุแช่แห้ง (บ้านหนองเต่า) จังหวัดน่าน เป็นชุมชนที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่เก่าแก่และเต็มไปด้วยความสำคัญทางศาสนา มีคำขวัญชุมชน คือ “เที่ยวหนองเต่า เล่าวิถี ประเพณีไหว้สา มหาธาตุเจ้าแช่แห้ง” โดยชุมชนฯ มีวัดพระธาตุแช่แห้งเป็นศูนย์กลางสำคัญด้านศาสนาและวัฒนธรรม พระธาตุแช่แห้งเป็นพระธาตุประจำปีเกิดผู้ที่เกิดปีเถาะ สำหรับการท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวสามารถสักการะ “พระธาตุแช่แห้ง” เป็นโบราณสถานศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองน่านมาช้านาน อายุกว่า 600 ปี และชมความงดงามวิหารหลวงวัดพระธาตุแช่แห้งภายในวิหารหลวงมีพระเจ้าล้านทองเป็นพระประธานเป็นพระพุทธรูปที่สวยงามในจังหวัดน่านและเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง
“กิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว อาทิ สักการะบูชาพระธาตุ การทำเทียนกระต่ายมงคล ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการเกษตร ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงในชุมชน เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ผ้าโบราณ เรียนรู้การทอผ้า เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ภูเพียงโมเดล – รักษ์ป่าน่านซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้นานาชนิดของจังหวัดน่าน และสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อของชุมชน ได้แก่ ผ้าทอมือ ผ้าลาย น้ำไหล สบู่สมุนไพร ผลิตภัณฑ์จากหัตถกรรมท้องถิ่น ฯลฯ และชิมอาหารพื้นบ้านเมนูสุดฟินอาหารพื้นบ้านที่มีเอกลักษณ์ เช่น แกงแคไก่เมือง ขนมอั่ว ซึ่งเป็นเมนู 1 จังหวัด 1 เมนูเชิดชูอาหารถิ่น “รสชาติ…ที่หายไป The Lost Taste” ปี 2566 และปี 2567” นายพลภูมิ กล่าว
นายพลภูมิ กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าประเพณีดังกล่าวและชุมชนวัดพระธาตุแช่แห้ง (บ้านหนองเต่า) จะเป็นการร่วมกันผลักดันให้ประเพณี และชุมชนที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ นำไปสู่การยกระดับ Soft Power การท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรมตามนโยบายรัฐบาลเพื่อดึงนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติร่วมกันสร้างปรากฏการณ์ท่องเที่ยวอัตลักษณ์ชุมชนของไทย ปลุกกระแสการท่องเที่ยววิถีชุมชนไปด้วยกัน/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน/ทีมข่าวสมาคม/ รายงาน




Share this content: