
สภาวัฒนธรรมอำเภอปาย จัดงาน“ราตรีรวมใจ สานสายใยปายผูกพันครั้งที่ 2 “ ( งานดอกเมเมียวบาน ณ ลานปาย ครั้งที่ 3 )








วันที่ 8 มีนาคม 2568 เวลา 19.30 น.นางอาภรณ์ แสงโชติ ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอปาย กล่าวรายงานต่อนายณพล พาหุมัณโต นายอำเภอปาย ประธานในพิธีเปิด “งานราตรีรวมใจ สานสายใยปายผูกพันครั้งที่ 2 “ ( งานดอกเมเมียวบาน ณ ลานปาย ครั้งที่ 3 ) ณ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ของชุมชนอำเภอปาย ( บ้านป้าแหลง) ตำบลเวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อฟื้นฟูขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของอำเภอปาย และ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนชาวอำเภอปาย และบุคคลทั่วไป ได้รู้จักดอกเมย์เมียว ซึ่งเป็นดอกไม้โบราณดั้งเดิม ของอำเภอปาย มีอายุกว่า 100 ปีได้รู้จักอย่างแพร่หลาย รวมถึงเพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของอำเภอปาย ให้ยั่งยืน
สำหรับดอกเมย์เมียว จะเริ่มผลิบานเฉพาะช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนธันวาคมไปถึงเดือนกุมภาพันธ์ ขั้นตอนการปลูกดอกเมย์เมียวทำได้ง่ายๆ ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม จะเริ่มนำเมล็ดพันธุ์เมย์เมียวออกมาหว่านในแปลงเช่นเดียวกับการปลูกผักกาด เปิดน้ำฉีดเช้า-เย็น แค่พอหน้าดินชุ่มชื้นเท่านั้น
แต่หากปีไหนโชคร้าย เจอฝนตก ต้นเมย์เมียวก็เสี่ยงเจอปัญหาเชื้อราเข้ารบกวน หากปีไหนไม่เจอฝนตก ก็เจริญงอกงามด้วยดี เมล็ดพันธุ์เมย์เมียวจะงอกออกเป็นต้นกล้าเล็กๆ ภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ และค่อยเจริญงอกงามอย่างเต็มที่ในระยะเวลาประมาณ 75 วัน หลังจากเบ่งบานอย่างเต็มที่แล้ว ก็จะค่อยแห้งเหี่ยวลง
ชาวไทยใหญ่ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนและเชียงใหม่นิยมใช้ดอกเมย์เมียวจัดพุ่มดอกไม้มงคลถวายพระหรือมอบให้เป็นของขวัญให้กับผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ เพราะความหมายของชื่อ ซะเทวะต๊ะ ที่แปลว่า ดอกไม้เศรษฐี เป็นนามมงคลเสมือนเป็นคำอวยพรให้มีโชคลาภทั้งผู้ให้และผู้รับ ดอกเมย์เมียวผลิบานเพียงช่วงสั้นๆ ปีละครั้ง ในช่วงฤดูหนาว ประมาณเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ของทุกปี
เนื่องด้วย ดอกเมย์เมียว เป็นดอกไม้ในตำนาน หายาก และใกล้จะสูญพันธ์ุไปจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน นางอาภรณ์ แสงโชติ ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอปาย จึงได้มีความตั้งใจในการอนุรักษ์ดอกเมย์เมียวไว้ ให้เป็นดอกไม้ท้องถิ่นประจำอำเภอปาย คงอยู่คู่กับจังหวัดแม่ฮ่องสอนสืบไป.
Share this content: