กรมศุลกากรขานรับนโยบายปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยึดบุหรี่ไฟฟ้าผ่านแดนกว่า 2 แสนชิ้น มูลค่า 33.07 ล้านบาท







นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีพันตำรวจเอก ทวีสอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระ ทรวงการคลังนายสุรชาติเทียนทองผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (ปฏิบัติหน้าที่เลขานุ การรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์) นายพลนขชาจักรเพ็ชร ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังร่วมแถลงข่าว “กรมศุลกากรขานรับนโยบายปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยึดบุหรี่ไฟฟ้าผ่านแดน กว่า 2 แสนชิ้นมูลค่า 33.07ล้านบาท”โดยมี นายชัยพร แพภิรมย์รัตน์รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีนายธีรัชย์อัตนวานิชอธิบดีกรมศุลกากร พ.ต.ต.ยุทธนาแพรดำ อธิบดีกรมดีกรมสอบสวนคดีพิเศษนายดิเรกคชารักษ์รองอธิบดีกรมศุลกากร พล.ต.อ.ประจวบวงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อัคราเดชพิมลศรีผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่ง ชาติ สำนักงานตำรวจแห่วจแห่งชาติ และพล.ต.ท. ยิ่งยศเทพจำนงค์ผู้บัญชาการดำรวจภูธรภาค 2 ณ ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรีตามนโยบายรัฐบาลโดยการนำของ นางสาวแพทองธารชินวัตรนายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงานภาครัฐบูรณาการความร่วมมือเดินหน้าปราบปราม หยุดยั้งการลักลอบผลิต นำเข้าหรือจำหน่ายเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดบุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิดโดยให้เร่งดำเนินการจับกุมและเร่งสร้างภูมิคุ้มกันในการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนให้แล้วเสร็จภายใน 30 นั้นกรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังและกองสืบสวนและปราบปราบปรามกรมสอบ สวนคดีพิเศษสถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี สถานีตำรวจภูธรแหลมฉบังและตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกับกันตรวจ สอบตู้สินค้าผ่านแดน จำนวน 1 ผู้คอนเทนเนอร์ ณ ท่าเรือ LCMT(A0) สำนักงานศุลกากากรท่าเรือแหลมฉบังประเทศต้นทางจาก CHINA ส่งไปยังประเทศ Myannarนำเข้าสินค้าผ่านท่าเรือแหลมฉบัง และจะไปทำการตรวจปล่อยที่ด่านศุลกากรแม่สอด สำนักงานศุลกากรภาคที่ 3 โดยสำแดงสินค้าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อุปกรณ์ทางการแพทย์ส่วนประกอบรถยนต์ เครื่องจักรและอื่น ๆ จำนวน 1,173กล่อง ผลการตรวจสอบพบบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง 6,000ชิ้น มูลค่า 1,200,000 บาทน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 6,000ชิ้น มูลค่า 900,000 บาทหัวพ็อดบุหรี่ไฟฟ้าที่ภายในบรรจุน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า190,100ชิ้นมูลค่า 28,515,00 บาทและเครื่องบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า8,200 ชิ้นมูลค่า 2,460,000 บาทรวมทั้งหมด 210,300ชิ้น มูลค่ารวม 33,075,000 บาทซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากรพ.ศ. 2560และเป็นของต้องห้ามตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องสินค้าต้องห้ามนำผ่านราขอาณาจักร พ.ศ. 2559 ประกอบประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องกำหนดให้บารากู่และบารากูไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้าในราชอาณาจักร พ.ศ.2557
สำหรับของกลางที่ตรวจยึดได้ดังกล่าวกรมศุลกากรจะได้ประเมินราคาเพื่อแจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อดำเนินคดี โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้เร่งทำการสืบสวนสอบสวนและขยายผลไปยังตัวการ ผู้ใช้และผู้สนับสนุน ภายได้การบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องและมาตรการพิเศษอย่างเด็ดขาด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมชัดเจนต่อไป
วิศาล แสงเจริญ
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดชลบุรี
Share this content: