หนองคาย
วอดทั้งหลัง!! เพลิงไม่บ้านไม้สองชั้น เหลือแต่ซาก คาดเสียหายกว่า 1.5 ล้าน
วันที่ 11 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้าน 2 ชั้นหลังใหญ่ เป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้เสียหายทั้งหลัง จึงเดินทางเข้าตรวจสอบพบว่า เหตุเพลิงไหม้เกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 19.30 น. เป็นบ้านของนายทองพูล องค์กลาง อายุ 85 ปี เลขที่ 307 หมู่ที่ 3 บ้านหนองนาแพง ต.วังหลวง อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย ซึ่งอาศัยอยู่กับนายนาวี องค์กลาง อายุ 57 ปี ลูกชาย นางแหวน คำงาม อายุ 49 ปี ลูกสาว และหลานชาย อายุ 12 ปี ลูกชายของนางแหวน
สภาพที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้นหลังใหญ่ ครึ่งปูนครึ่งไม้สร้างมาหลายสิบปี เพลิงไหม้เสียหายทั้งหลัง ทรัพย์สินภายในบ้านเสียหายทั้งหมด รวมถึงเอกสารสำคัญ และยังมีรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ toyota vigo champ แบบแคป สีขาว ทะเบียน ผม 2442 อุดรธานี ถูกไฟไหม้ไปกว่าครึ่งคัน จอดไว้ในโรงรถข้างบ้าน ส่วนสาเหตุต้องรอพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป
นายทองพูนฯ เล่าว่า หลังจากรับประทานอาหารเสร็จก็ไปนั่งดูทีวีที่ชั้นล่าง ลูกสาวก็ไปล้างจานอยู่ดีๆ ก็วิ่งขึ้นไปบนบ้าน ผมจึงเดินไปดูจึงรู้ว่าไฟไหม้บ้านไหม้ที่ชั้น 2 จึงเดินไปเปิดประตูร้องให้คนช่วยทั้งที่ตัวเองประสบอุบัติเหตุขาข้างซ้ายหัก ลูกสาวและลูกชายเป็นคนเห็นเพลิงครั้งแรก
นางแหวนฯ เล่าว่า หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ ก็ได้ไปเปิดทีวีและพัดลมให้พ่อ เอายาประคบขาให้เพราะพ่อขาหักจากอุบัติเหตุ แหงนหน้าขึ้นไปบนชั้น 2 รู้สึกเหมือนว่ามีแสงไฟอยู่บนบ้านจึงวิ่งขึ้นไปบนบ้านเห็นว่าไฟไหม้และเริ่มลุกลามแล้ว ช่วงนั้นเวลาน่าจะประมาณ 19.30 น.จึงวิ่งลงมาเอาน้ำไปดับไฟแต่ก็ไม่สามารถดับไฟได้ มันมีผ้าห่มมีที่นอนที่อยู่บนบ้าน เมื่อเห็นว่าควบคุมไม่ได้จึงรีบมาเอาพ่อที่ขาหักและลูกชายออกมาจากบ้าน รถดับเพลิงก็คงต้องใช้เวลากว่าจะมาถึง ชั้น 2 ก็ไม่หมดแล้ว และก็ลามลงมาชั้นล่าง พวกสิ่งของเครื่องใช้เสื้อผ้าก็ไม่ได้เอาออกมาเลย เหลือเพียงเสื้อผ้าติดตัว ส่วนพี่ชายพยายามนำรถยนต์ออกมาจากโรงรถอยู่ข้างบ้านแต่ก็ถูกไฟไหม้ไปครึ่งคันแล้ว โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ความเสียหายครั้งนี้คาดว่าประมาณ 1.5 ล้านบาท
นางสำเนียง กันยานุช อายุ 59 ปี เพื่อนบ้านติดกันเล่าให้ฟังว่า ช่วงนั้นเวลาประมาณ 20.00 น.ออกมาว่าจะมาล็อครถ จยย.3 คัน ที่อยู่หน้าบ้าน เห็นไฟไหม้อยู่บนชั้น 2 มุมบ้าน ทีแรกก็ไหม้ไม่เยอะ จึงร้องให้ชาวบ้านออกมาช่วยกันและจับโทรศัพท์ที่ถือออกมาด้วยถ่ายทอดสด คนในหมู่บ้านจึงรู้และออกมาช่วยกัน เพียงระยะสั้นๆไฟก็ไหม้ทั้งหลังแล้ว
ด้านนายพั้ว ภูศรีฤทธิ์ นายก อบต.วังหลวง แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับเพลิงไหม้บ้านเสียหายทั้งหลังก็จะมีเงินช่วยเหลืออยู่ประมาณ 49,000 บาท และมีเงินส่วนอื่นอีกนิดหน่อย แต่ละเคสจะไม่เท่ากัน แต่ต้องรอให้พิสูจน์หลักฐานมาตรวจหลักฐานให้ชัดเจนก่อน ได้รับรายงานเรื่องเพลิงไหม้บ้านหลังดังกล่าวตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว และได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุตั้งแต่เมื่อคืนทั้งได้ประสานรถดับเพลิง อบต.ข้างเคียงเข้ามาช่วย//ฤาษีลภ/โถควินทร์ จว.หนองคาย
Share this content: