สืบภาค 8 เปิดปฏิบัติการสืบสวนขยายผลจับกุมกลุ่มนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ “เครือข่ายนายแค้ง ชัยบุรี”ออกจากคุก 3 เดือน กลับมาค้าไอซ์10 กก.ยาบ้า 1.4 หมื่นเม็ด
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 มี.ค.68 ที่สภ.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช รอง ผบช.ภ.8/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.8 พล.ต.ต.เลิศชาย จำปาทอง ผบก.สส.ภ.8 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.8 ร่วมกันจับกุมตัว นายภิรมย์ หรือแค้ง อินทร์โตรม อายุ 46 ปี,นาย กิจติศักดิ์ หรือเอ็ม คำฉวาง อายุ 42 ปี ,น.ส.ศิริกัญญา หรือออย สุดสมัย อายุ 45 ปี,นายจำนง หรือแข็ค คงเรือง อายุ 43 ปี ,และนายสุรศักดิ์ หรือโล้น ดวงชัย อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่พร้อมของกลางยาไอซ์ หนักประมาณ 10 กิโลกรัม,ยาบ้าจำนวน 14,000 เม็ด และตรวจยึดทรัพย์สิน เงินสดจำนวน 150,000 บาท ,รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า จำนวน 1 คัน,รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน,โทรศัพท์มือถือ
จำนวน 5 เครื่อง
พล.ต.ต.ศรัญญู กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 มี.ค.68 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบมาว่า”เครือข่ายนายแค้ง ชัยบุรี”เป็นกลุ่มนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ อ.พระแสง อ.ชัยบุรี อ.ปลายพระยา จึงได้จับกุมตัวนายแค้ง,นายเอ็มและน.ส.ออย และเจ้าหน้าที่ทราบว่า ทั้งหมดได้สั่งการให้ นายแช็คและนายโล้นนำยาไอซ์ จำนวน 6 กก.โดยมีการนัดส่งยาเสพติด กันที่ บริเวณริมถนนเซาเทิร์น หมู่ที่ 3 ต.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี จึงวางแผนเข้าจับกุมพร้อมขยายผลตรวจยึดของกลาง เพิ่มอีก 4 กก.และยาบ้า 1.4 หมื่นเม็ด ที่บริเวณสวนปาล์มน้ำมัน หมู่ที่ 3 ต.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี
จากการตรวจสอบประวัตินายภิรมย์ หรือแค้ง อินทร์โตรม เคยถูกจับกุมจำนวน 2 ครั้ง ที่ สภ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ เมื่อปี 2555 ข้อหา ทำ อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปิน โดยมิได้อนุญาต,ครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย และที่ สภ.ชัยยุรี จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2555ข้อหา ครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย และนายภิรมย์ เคยถูกจับโดยชุดจับกุม ยาเสพติด สืบสวนภาค 8 มาก่อน เคยจับกุมในคดีครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติด ยาไอซ์ ห้ากิโลกรัม ประมาณ 12 ปีมาแล้ว และเพื่อพ้นโทษมาประมา 3 เดือน และกลับมาจำหน่ายอีกจนถูจับดังกล่าว จากนั้นนำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางสวรรค์ดำเนินคดีในข้อหา นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางสวรรค์ ดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามึน หรือไอซ์ และยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” ต่อไป
/////////
Share this content: