
ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ผบ.สตม ตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ ตม ปายและส่วนงาน ตร.ได้แก่ ตร.ทท.และตร.ภูธร สภ.ปาย กำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มกับบุคคลต่างด้าว









ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ผบ.สตม.เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ สตช.ไปตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ ตมปายและส่วนงานในตร.ได้แก่ ตร.ทท.และตร.ภูธร สภ.ปาย กำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มกับบุคคลต่างด้าว ปรับปรุงข้อมูลบุคคล และ ประชาสัมพันธ์และตรวจสอบการแจ้งเข้าพักของบุคคลต่างด้าวอย่างเข้มงวด
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 เวลา 10.30 น. พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบ.สตม. ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองแม่ฮ่องสอน ส่วนแยกปาย โดยมี พ.ต.ท.กฤษณ์ สมณาศักดิ์ สว.ตม.จว.แม่ฮ่องสอน ให้การต้อนรับและได้มีการร่วมประชุม ณ สำนักงาน ตม.ส่วนแยกปาย โดยมี พ.ต.อ. ผกก.สภ.ปาย , ผู้แทน ตร.ท่องเที่ยวจ.แม่ฮ่องสอน เข้าร่วมประชุม ในการประชุมดังกล่าว ทาง ผบ.สตม.ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ ดังนี้
1. ให้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบ บุคคลต่างด้าว และกลุ่มบุคคลต่างด้าว ที่เข้ามาและอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ ตม.จว.แม่ฮ่องสอนโดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอปายที่มักจะปรากฏประเด็นข้อร้องเรียนตามสื่อมวลชน เช่น ก่อความเดือดร้อนรำคาญ และความวุ่นวายเป็นเหตุให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ โดยให้วางมาตรการป้องกันร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดปัญหาในพื้นที่ลง
2. ให้จัดทำ และปรับปรุงข้อมูลท้องถิ่น ( บุคคล และสถานที่ )ให้ครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน ( Update ) โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลต่างด้าวสัญชาติที่ควรเฝ้าติดตามพฤติการณ์อย่างใกล้ชิด เช่น บุคคลต่างด้าว สัญชาติอิสราเอล , รัสเซีย เพื่อเป็นฐานข้อมูลของหน่วย สามารถใช้ประโยชน์ในการสืบสวนปราบปราม และติดตามตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ให้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ และตรวจสอบการแจ้งการรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยภายใน 24 ชั่วโมง ตาม มาตรา 38 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 กับสถานที่พักประเภทต่าง ๆ ในพื้นที่ให้ครบถ้วนโดยเร็ว หากพบว่ามีเจ้าของที่พักฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ให้บังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด และให้ดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง เพื่อให้มีสถิติการแจ้งที่พักในระบสารสนเทศฯ สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่อยู่ในพื้นที่จริงซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการสืบสวนติดตามตัวบุคคลต่างด้าวได้อย่างรวดเร็ว
4. สนับสนุนการปฏิบัติกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ในการตรวจสอบ สกัดกั้น ป้องกันปราบปราม และสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 , พ.ร.ก.การบริหารการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และ 2561 , ความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ค้าประเวณี และยาเสพติด รวมทั้งความผิดอื่นที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
5. กรณีคนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาด้วยวีซ่าประเภทนักท่องเที่ยว หากเขามาแล้วพบว่ามีพฤติการณ์ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ หรือกระทำความผิดกฎหมาย ให้สืบสวนจับกุม และเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร แล้วผลักดันส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร
6. ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นควบคุม และกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ ตลอดจนเพื่อมิให้เกิดข้อบกพร่อง ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ สตม. และ ตร. และให้ร่วมใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจ เสียสละ อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อทำให้ภารกิจที่ได้รับมอบหมาย สำเร็จ ลุล่วงตามวัตถุประสงค์ของหน่วย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตามในการเดินทางมาตรวจของ ผบ.สตม.พบว่ามีความกังวลเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลและโบสต์ยิวที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ตม.ในพื้นที่ระบุว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวยิวที่เป็นกลุ่มวัยรุ่น ได้พากันเดินทางกลับประเทศเพื่อไปเป็นทหาร และช่วงนี้เข้าสู่ฤดูร้อน มีหมอกควัน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะไปท่องเที่ยวตามชายทะเลในภาคใต้มากกว่าขึ้นมาที่ปาย
——————————–
ทศพล / แม่ฮ่องสอน
Share this content: