
ชนเผ่าสองฝั่งสาละวินร่วมแก้ไขปัญหาไฟป่า








นายก.อบต.แม่สามแลบ ประสานความร่วมมือ ราษฎรสองฝั่งริมน้ำสาละวิน ร่วมป้องกันไฟป่า สองแผ่นดินร่วมกัน ระบุปัญหาไฟป่าและหมอกควัน หากเกิดขึ้นฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ย่อมส่งผลกระทบข้ามแดน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 นายพงษ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สามแลบ ในฐานะ ผู้อำนวนการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันตำบลแม่สามแลบ ได้เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่พี่น้องฝั่งประเทศเพื่อนบ้านได้เดินทางมาร่วมกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันเขื่อนโลก เมื่อวานนี้ ทางศูนย์ปฏิบัติการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควัน ตำบลแม่สามแลบจึงได้พูดคุยหารือแลกเปลี่ยนแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าสองแผ่นดินร่วมกัน โดยมีมติร่วมกัน ในการจัดชุดลาดตระเวนทางน้ำ และรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในการขอความร่วมมือและสร้างความเข้าใจร่วมกัน ทั้งสองฝั่ง ณ บริเวณชายหาดบ้านสบเมย ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน
เพื่อช่วยกันในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาไฟป่า และ หมอกควัน เนื่องจากตลอดแนวสาละวินชายแดนไทย-พม่า ชายแดนติดกัน มีชุมชนอาศัยอยู่ทั้งสองฝั่ง และ เป็นผืนป่าขนาดใหญ่เชื่อมทั้งสองฝั่ง จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องสร้างความร่วมมือ และความเข้าใจร่วมกัน เพราะปัญหาไฟป่า และหมอกควัน หากเกิดขึ้นฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ย่อมส่งผลกระทบข้ามแดน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่ผ่านมาไฟที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่เกิดจากคนที่แอบเข้าป่าล่าสัตว์ แล้วจุดไฟ โดยไม่มีการป้องกัน หรือประมาท ทำให้ไฟลุกและลามในวงกว้าง จนไม่สามารถควบคุมได้
ทั้งนี้โดยในฝั่งของประเทศไทยเราจะมีการลาดตระเวนเฝ้าระวัง ตั้งแต่เขตรอยต่อ บ้านท่าตาฝั่ง สบแม่แวน ลงผ่าน แม่สามแลบ – สบเมย แล้วย้อนขึ้นน้ำเมย – มาจนถึงสบยวม ขึ้นมาน้ำยวม ผ่านรอยต่อ สบเมย-ท่าสองยาง จ.ตาก ในส่วนฝั่งประเทศเพื่อนบ้านก็มีมาตรการในจัดการ ดูแลไฟป่า เช่น กัน คือ มีการทำแนวกัน ในพื้นที่เกษตรที่จะทำการเผา ซึ่งทางฝั่งประเทศเพื่อนบ้านได้ทำเป็นวิถีปกติอยู่แล้ว ส่วนในป่าก็เขาก็ไม่ให้เผาเช่นกัน
———————————–
ทศพล / แม่ฮ่องสอน
Share this content: