






สืบสานประเพณีปอยส่างลอง
อบต.หมอกจำแป่ ต.หมอกจำแป่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน สืบสานงานประเพณีปอยส่างลอง ประจำปี 2568 ห้วง 19-22 มีนาคม 2568 จัดบวชลูกแก้วจำนวน 24 องค์
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 พระครูอนุสนธิ์ธรรมกิจ เจ้าคณะอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เจ้าอาวาสวัดหมอกจำแป่ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ ณ มาตคำ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยนางถนอม ณ มาตคำ กำนันตำบลหมอกจำแป่ นำพี่น้องประชาชนชาวตำบลหมอกจำแป่ ร่วมสืบสานงานประเพณีปอยส่างลอง ประจำปี 2568 ซึ่งกำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 19-22 มีนาคม 2568 ภายใต้การสนับสนุนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อเป็นการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีอันดีงาม ที่มีคุณค่ายิ่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ส่งเสริมให้เยาวชนได้เรียนรู้ หลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา และปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้เยาวชน ในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน โดยมีเด็ก-เยาวชน ร่วมโครงการในครั้งนี้จำนวน 24 องค์
ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลหมอกจำแป่ ได้กำหนดการจัดงานประกอบด้วย วันแรก เป็นวันปลงผมส่างลอง วันที่ 2 วันแฮก หรือวันรับส่างลอง วันที่ 3 เป็นวันส่างลองเยี่ยมญาติ วันที่ 4 วันแห่โคหลู่และเรียกขวัญส่างลอง วันสุดท้าย คือวันบรรพชาสามเณร หรือวันข่ามส่าง
ประเพณีปอยส่างลอง งดงามเปี่ยมศรัทธา ทรงคุณค่าคู่วิถีไทใหญ่ การได้บวชส่างลองจะได้อานิสงส์ผลบุญสูงสุด…เป็นความเชื่อของชาวไทใหญ่ ที่สะท้อนออกมาผ่านงานประเพณี ที่ได้ยึดถือปฏิบัติและสืบทอดต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน จนกลายเป็นหนึ่งในประเพณีที่ทรงคุณค่าของจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ปอยส่างลอง ถือคติในการบวชเณรที่เลียนแบบพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าตอนเป็นเจ้าชายสิทธัตถะก่อนออกผนวช จึงต้องแต่งกายส่างลองกันให้สง่างาม ตามแบบกษัตริย์พม่าโบราณ นุ่งโจงกระเบน สวมเสื้อมีชายเชิงงอนปักดิ้นไหม ประดับด้วยเพชรนิลจินดาทั้งสร้อย กำไล และแหวน ศีรษะโพกด้วยผ้าแพรและประดับด้วยดอกไม้ มีคนคอยกางร่มทองคำกันแดด มีพี่เลี้ยงส่วนตัวคอยดูแลส่างลองอย่างใกล้ชิด
สำหรับครอบครัวคนยากจนที่มีลูกชาย หรือฐานะดีที่มีแต่ลูกสาวก็ไม่สามารถบวชส่างลองได้จึงมี “พ่อข่าม” “แม่ข่าม” รับเป็นเจ้าภาพอุปถัมภ์ในการบวชให้แก่เด็กชายที่ไม่มีทุนทรัพย์แต่ต้องการบวชส่างลอง เรียกง่ายๆ ว่า ฝ่ายหนึ่งได้บวช ฝ่ายหนึ่งได้บุญมีความสุขอิ่มใจกันทั้งสองฝ่าย
ประเพณีปอยส่างลองจึงเป็นการรวบรวมอัตลักษณ์ วิถีวัฒนธรรม และงานศิลป์ต่าง ๆ ของชาวไทใหญ่เข้าไว้ด้วยกันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ความเชื่อ พิธีกรรม การแต่งกาย เครื่องประดับ ขบวนแห่ การแสดง อาหารการกิน โดยจะจัดขึ้นปีละ 1 ครั้ง ทุกปี ระหว่างเดือนมีนาคม – เมษายน ซึ่งเป็นช่วงว่างเว้นจากการทำนา และมีความอุดมสมบูรณ์ในเรื่องของอาหาร และเป็นช่วงที่เด็กๆ ปิดเทอม ถือเป็นการใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอมนี้ ศึกษาหาความรู้ และฝึกปฏิบัติตามรูปแบบชองชาวพุธ เป็นกลวิธีในการให้เด็กได้เรียนรู้ และสืบสานประเพณีดั้งเดิมของท้องถิ่นได้ดี
และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์หนึ่งในงานประเพณีประจำปีเลื่องชื่อของชาวไทใหญ่เมืองสามหมอก ซึ่งนอกจากจะมากไปด้วยสีสันงดงามเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังเป็นงานบุญที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งศรัทธาอันทรงคุณค่ายิ่ง.
——————————-
ทศพล / แม่ฮ่องสอน
Share this content: