บ0*“ดร.มหานิยม”พร้อมภริยา เข้ากราบนมัสการ”ท่านพระครูสุนทรวินัยคุณ”เจ้าอาวาสวัดภูหล่นอุบลฯเยี่ยมชมสถานวิปัสสนากรรมฐาน”หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต”*
เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 “ดร.นิยม เวชกามา” เจ้าของฉายา “ดร.มหานิยม” ที่คนรู้จักกันทั้งประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล) พร้อมด้วย “อาจารย์นลินี เวชกามา” ภริยา “นายเรืองสุวรรณ โยวะ” ที่ปรึกษาประจำตัว ดร.มหานิยม และคณะ เข้ากราบนมัสการ “พระครูสุนทรวินัยคุณ” เจ้าอาวาสวัดภูหล่น อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมเยี่ยมชมสถานวิปัสสนา ซึ่งเป็นวัดที่เกจิดังภาคอีสาน พระอาจารย์ใหญ่ “หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต” มาฝึกกรรมฐาน ปฏิบัติจิตของสงฆ์ ทำสมาธิ โดย “หลวงปู่เสาร์ กันตะสีโล” ซึ่งเป็นพระอาจารย์ขององค์หลวงปู่มั่นได้พาท่านมาอบรมสมาธิบนภูหล่นแห่งนี้
ดร.มหานิยม และคณะ ได้เดินเยี่ยมชมพื้นที่ภายในวัด ซึ่งยังเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ร่มรื่น พบว่ามีการจัดนิทรรศการชีวประวัติของหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น และสถานปฎิบัติธรรมให้ผู้เลื่อมใสศรัทธาเข้ามาใช้ภาวนาจิตศึกษาธรรมมะ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนาธรรมอีกแห่งของอำเภอศรีเมืองใหม่
ดร.มหานิยม กล่าวว่า วัดภูหล่น เป็นปฐมสมถวิปัสสนากัมมัฎฐานของ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อยู่ห่างจากบ้านคำบง ซึ่งเป็นบ้านเกิด ของ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ประมาณ 5 กิโลเมตร ในราวปี พ.ศ.2440 หลวงปู่เสาร์ กันตะสีโล ซึ่งเป็นพระอาจารย์ขององค์หลวงปู่มั่นได้พาท่านมาอบรมสมาธิบนภูหล่นแห่งนี้ ซึ่งมีลักษณะลานหินกว้างมีเพิงหิน เต็มไปด้วยไข้ป่า และ สัตว์ร้าย หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านจึงได้นำชาวบ้านมาช่วยขนหิน ดินโคลน ขึ้นมาก่อเป็นถ้ำพอเป็นที่อยู่อาศัยกันสัตว์ร้ายมารบกวนเวลาทำความเพียร เคยมีเหตุการณ์เกิดขึ้นขณะนั่งวิปัสสนาอยู่นั้น ได้มีเสือจะเข้ามาทำร้ายแต่ก็ไม่สามารถจะทำอะไรท่านได้ ปัจจุบันนี้ยังมีรอยเท้าเสือปรากฏอยู่ ณ สำนักสงฆ์ภูหล่นแห่งนี้ เป็นรอยเท้าเสือที่ไม่มีเล็บบนผนังเพิงพักนั้น
“หลังจากหลวงปู่เสาร์ กันตะสีโล พระอาจารย์ของท่านได้อบรมจนรู้ชัดว่ากำลังสมาธิอันแน่วแน่ ได้เกิดขึ้นแล้วในหลวงปู่มั่น ท่านจึงได้เเยกจากไป หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านได้บำเพ็ญภาวนาอยู่บนภูหล่น ประมาณ 5 ปี ท่านจึงได้จากสถานที่แห่งนี้ไป หลังจากท่านได้แสดงธรรมเทศนาอบรมโยมมารดาจนเกิดศรัทธา ออกประพฤติศีลพรหมจรรย์ตามท่านไป ในราวปี พ.ศ. 2449 และไม่ได้ย้อนกลับมาที่ภูหล่นอีก”
ทั้งนี้ “พระครูกมลภาวนากร” (สีทน กมโล) อดีตเจ้าคณะตำบลพิบูลมังสาหาร (ธรรมยุติ) ที่เคยได้มาปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดภูหล่น ซึ่งนับได้เป็นพระนักพัฒนาสงเคราะห์ที่มีความกตัญญู เสียสละเป็นทิฏฐานุคติแก่บุคคลรูปหนึ่ง เป็นผู้นำการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดภูหล่น ระหว่างปี พ.ศ.2527 จนได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2538 ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้กลายเป็นที่รู้จักของสาธารณะชนทั่วไป
โดย พระครูกมลภาวนากร จบการศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนพิบูลมังสาหาร (วิภาคย์วิทยากร) พออายุครบ 22 ปี อุปสมบท ณ วัดภูเขาแก้ว เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ.2515 โดย “พระครูพิบูลธรรภาณ” เป็นอุปัฌาย์ “พระอาจารย์สมศรี อุตตโม” เป็นพระกรรมวาจาจารย์ “พระอาจารย์บุญเย็น โรจโน” เป็นอนุสาวนาจารย์ หลังจากการบรรพชาอุปสมบทท่านได้ตั้งใจศึกษาพระปริยัติธรรม จนสามารถสอบนักธรรมชั้นเอกได้ ปี พ.ศ.2517 ด้วยอุปนิสัยสนใจปฏิบัติใฝ่ในวิเวกกรรมฐาน ศึกษาธรรมปฏิบัติกับ “หลวงปู่สาย จารุวณฺโณ” “หลวงปู่กิ ธมมุตตโม” และ “หลวงปู่บุญมาก ฐิติปญโญ” ด้วยความอุตสาหะสนใจใครรู้ท่านได้ออกภาวนาตามสถานที่วิเวกต่าง ๆ เพื่อบำเพ็ญสมณะธรรม ครั้งหนึ่งท่านได้พักปฏิบัติธรรมที่วัดภูหล่น หลังจากท่านกลับจากวัดภูหล่นมาพักที่วัดภูเขาแก้ว ท่านได้เกิดนิมิต ซึ่งในนิมิตนั้นเป็นการบอกให้ท่านกลับไปบูรณะวัดภูหล่น ซึ่งเป็นสถานที่บำเพ็ญปฐมสมถะ-วิปัสสนา ของบูรพาจารย์ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล และหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ปัจจุบันวัดภูหล่น เป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งที่ชาวบ้านจะเดินทางไปทำบุญอยู่เสมอ และบริเวณโดยรอบของสำนักสงฆ์ภูหล่นนั้นร่มรื่นธรรมชาติสวยงามมาก จากบริเวณนี้มองออกไปจะเห็นทิวทัศน์แนวเทือกเขาหัวตัด และที่นาของชาวบ้านด้านล่างได้ชัดเจน//////ดร.นิยมเวช กามา////kao.kon.Esan…
Share this content: