ผู้ว่าฯจังหวัดประจวบฯ เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการบริหารราชการระหว่างภูมิภาคและท้องถิ่น พร้อมรับ 4 แนวทางจากนายกฯ พัฒนาคุณภาพชีวิต แผนพัฒนาจังหวัด การจัดเก็บรายได้ และการสร้างความร่วมมือ มุ่งมั่นขับเคลื่อนงานเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน
วันนี้ (3 เม.ย. 68) เวลา 09.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการบริหารราชการระหว่างภูมิภาคและท้องถิ่น เพื่อบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัด โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด จากทุกจังหวัด ข้าราชการ และภาคีเครือข่าย ร่วมพิธี ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์
ในช่วงต้น น.ส.แพทองธาร ได้กล่าวชื่นชมผู้เข้าร่วมการประชุมที่ได้สวมใส่ผ้าไทยกันอย่างสวยงาม เป็นการแสดงออกถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการจำหน่ายผ้าไทย และฝากให้ร่วมกันส่งเสริมการใส่ผ้าไทยอย่างต่อเนื่อง
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เป็นกลไกการบริหารราชการที่มีความสำคัญที่สุด เพราะผู้ว่าราชการจังหวัดคือตัวแทนของรัฐบาลในการนำนโยบายของรัฐบาลแปลงสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เป็นผู้กำหนดนโยบายการบริหารจัดการท้องถิ่นที่มีความเชื่อมโยงกับนโยบายของรัฐบาล และเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความใกล้ชิดกับประชาชน รวมไปถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นๆที่ถือว่ามีความใกล้ชิดกับประชาชนที่สุด ดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องสื่อสารกัน ต้องคุยกัน เพื่อให้การพัฒนาพื้นที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งที่ผ่านมาในหลายจังหวัดที่ตนได้เดินทางไปตรวจราชการก็ได้พบกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดหลาย ๆ จังหวัดได้สะท้อนปัญหา ทำให้ตนได้รับทราบปัญหาในพื้นที่อย่างแท้จริง
น.ส.แพทองธาร กล่าวต่ออีกว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา เกิดสถานการณ์ภัยพิบัติต่าง ๆ ผู้ว่าฯ คือคนสำคัญในการใช้งบประมาณช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเข้าไปถึงในแต่ละบ้านได้ ซึ่งตอนนี้ ภาคเหนือกำลังทมีปัญหาเรื่องฝุ่นควัน PM 2.5 และล่าสุดเรื่องแผ่นดินไหว ที่ส่งผลกระทบกับทางเหนือและกรุงเทพมหานครโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ตึก ๆ หนึ่ง ซึ่งแน่นอนไม่ว่าเกิดขึ้นที่จังหวัดไหน นั่นคือ ภาพรวมของประเทศไทย ทุกท่านมีส่วนสำคัญอย่างมากในการทำให้ประเทศไทยมีความเชื่อมั่นที่เป็นภาพที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
น.ส.แพทองธาร ได้มอบ 4 แนวทาง ได้แก่ 1) การพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน โดยให้ความสำคัญกับเรื่อง Green ไม่ว่าจะเป็นการรีไซเคิล การประหยัดพลังงาน พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษาเพื่อที่จะเตรียมความพร้อมคนสู่การพัฒนาประเทศในอนาคต 2) การจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดร่วมกัน เพื่อให้จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีวิสัยทัศน์และทิศทางเดียวกันในการพัฒนาจังหวัด ซึ่งผู้ว่าฯ และนายก อบจ. เป็นตำแหน่งที่ต้อง Active ในหน้าที่อย่างเต็มที่ และรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนอย่างยิ่ง 3) การจัดเก็บรายได้ รายจ่าย และการขอรับงบอุดหนุนจากรัฐบาลให้มีความสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและความต้องการของประชาชน โดยเน้นย้ำเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ต้องทำให้ยาเสพติดหมดไปจากประเทศไทยอย่างสิ้นเชิง และ 4) การสร้างความร่วมมือดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลเพื่อบรรลุเป้าหมายตามแผน ด้วยการจับมือร่วมกันซึ่งจะเป็นดัชนีชี้วัดความสำเร็จของการดำเนินงาน ซึ่งในปี 2568 รัฐบาลได้จัดสรรเงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.04
“ขอให้พวกเรามุ่งเน้นการทำประโยชน์เพื่อพี่น้องประชาชน เพราะพวกเราสวมหมวกเป็นผู้ดูแลพื้นที่และท้องถิ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ผู้ว่าราชการจังหวัดคือตัวแทนของรัฐบาลไปทำให้ที่ต่างๆนั้นสามารถทำให้นโยบายของรัฐบาลไปถึงพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกท่านมีกำลังใจในการทำงาน ซึ่งเวลานายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ที่ไหน ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประสานเวลากับทีมงานนายกฯ ได้เลย เพื่อมารายงานสภาพปัญหา ทำให้ตนได้รับรู้ปัญหามากขึ้น ได้พูดคุยกันมากขึ้น และสามารถแก้ปัญหาได้” น.ส.แพทองธาร กล่าวในช่วงท้าย
ภายหลังจาก น.ส.แพทองธาร กล่าวเปิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้เยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ ภายในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ โดยมี นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำชม
ในการนี้ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ร่วมกิจกรรมแบ่งกลุ่มอภิปรายการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดภายใต้ความร่วมมือระหว่างภูมิภาคและท้องถิ่น (Workshop) ร่วมกันกับ นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และหัวหน้าส่วนราชการ ซึ่งรายละเอียดการดำเนินกิจกรรม จะเป็นการพูดคุย/นำเสนอมุมมองและประสบการณ์ โดยมีหัวข้อดังนี้
(1) แนวทางการพัฒนาและบูรณาการความร่วมมือในการปฏิบัติงานระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
(2) ความคาดหวังในการจัดทำจังหวัดต้นแบบที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
(3) ปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด รวมทั้งแนวทางการแก้ไข
(4) นำเสนอโครงการที่ก่อให้เกิดการพัฒนาจังหวัดที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
Share this content: