ขบวนการมอดไม้เหิมเกริมลักตัดไม้จันทร์หอม
ไม้หวงห้ามใช้ในพระราชพีธีสำคัญในสำนักพระราชวัง

16 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับทหารและหน่วยงานความมั่นคง เข้าตรวจยึดไม้แปรรูปและไม้ท่อนบริเวณพื้นที่หมู่ 5 บ้านกระทุ่น ต.เขาจ้าว อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 14 ม.ค.67 ที่ผ่านมานั้น หลังมีรายงานบันทึกการจับกุม จากสภ.ปราณบุรีดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ 1 ราย หลบหนีไปได้อีก 1 ราย พร้อมยึดของกลางไม้ท่อนและแปรรูปอ้างว่าเป็นไม้จันทนา(พืชสมุนไพร)และอุปกรณ์ในการกระทำผิดพรบ.ป่าไม้อีกหลายรายการกลายเป็นข่าวไปนั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ สภ.ปราณบุรีเข้าสอบถามผลการจับกุมในคดีดังกล่าว ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารชุดร่วมจับกุมและตรวจยึด กำลังดำเนินการลำเลียงของกลางที่ยึดไว้ได้ เป็นไม้แปรรูปแล้วกว่า50แผ่น และไม้ท้อนที่อยู่ระหว่างกำลังจะดำเนินการเลื่อยเพื่อแปรรูปอีกหลายท่อน นำลงจากรถทหารเพื่อเคลื่อนย้ายไปเก็บไว้ที่โรงเก็บของกลางด้านหลังสภ.โดยผู้สื่อข่าวสอบถามเจ้าหน้าที่ป่าไม้ หลังร่วมกันตรวจสอบชนิดและประเภทของไม้ที่มีการบันทึกจับกุมร่วมกันหลายหน่วย เนื่องจากกระแสข่าววิพากษ์วิจารณ์ของเพจข่าวดังเมืองประจวบ โพสข้อความช่วงหนึ่ง กล่าวถึงขบวนการมอดไม้โดยตั้งข้อสงสัยถึงการ”จับไม้จันทร์หอมหลายท่อนทำไมมีผู้ต้องหารายเดียว รับจ้างเลื่อยไม้ไม่รู้ว่าใครเป็นนายจ้างฯ” ขณะที่กลุ่มแกนนำต้านโกงประจวบฯ(จอ.เสกสรรค์ จันทร)ยื่นเรื่องสอบถามข้อเท็จจริงในคดีจับไม้จันทร์หอมในพื้นที่ ม.5 ต.เขาจ้าว ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดประจวบฯ โดยข้อความหนึ่งกล่าวถึงสมาชิก อบต.รายหนึ่งในพื้นที่เขาจ้าว เข้าไปทำอะไรในที่เกิดเหตุ รวมทั้งจำนวนไม้ของกลางเป็นไม้ประเภทใด ตามเรื่องร้องเรียน 7 ข้อ ผ่านศูนย์ดำรงธรรมไปนั้น

เป็นเหตุให้กระแสสังคมตั้งข้อสงสัยถึงการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานบางราย ทำไมไม่มีการขยายผลจากการจับกุมเพื่อหานายทุนที่อยู่เบื้องหลังตามที่กระแสเพจข่าวดังเมืองประจวบกล่าวถึง รวมทั้งกระบวนการสรุปสำนวนบันทึกจับกุมผู้ต้องหาที่นำไม้มาแปรรูปนั้นไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อนว่าเป็นไม้ชนิดและประเภทใด ซึ่งหากไม้ท่อนดังกล่าวที่ถูกมอดไม้นำมาแปรรูปนั้นไม่ใช่ไม้จันทนา(พืชสมุนไพร)ตามบันทึกจับกุม แต่หากเป็นไม้จันทร์หอมที่ใช้เฉพาะในงานพระราชพิธีสำคัญต่างๆ ในสำนักพระราชวัง อาจเป็นประเด็นที่หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า ไม้จันทร์หอมขนาดใหญ่ภายในป่าอุทยานฯหลายท่อนถูกมอดไม้เพียงไม่กี่คน นำเล็ดลอดผ่านพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยงานใด ผ่านฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ออกมาได้อย่างไร

ขณะที่ผู้สื่อข่าวสอบถามกลุ่มเจ้าหน้าที่ป่าไม้ระหวางดำเนินการตรวจสอบชนิดและประเภทพันธ์ไม้ ซึ่งเข้าใจว่าต้องมีประสบการณ์การดูชนิดและประเภทพันธ์ไม้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากทำการจับกุมมอดไม้อยู่บ่อยครั้ง แต่ไม้มีใครยืนยันได้ว่าไม้ของกลางที่ตรวจยึดมาได้นั้น เป็นไม้จันทร์หอม หรือไม้จันทนา จึงตั้งข้อสงสัยถึงกระบวนการบันทึกจับกุม สรุปสำนวนเอื้อประโยชน์อ้างไม้จันทนาเป็นเพียงพืชสมุนไพรหรือไม่ หลังทราบว่ามีผู้ยื่นขอประกันตัวผู้ต้องหาขบวนการมอดไม้แล้วนั้น
ทั้งนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ป่าไม้ยังคงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำหนังสือส่งไปยังต้นสังกัดตนเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านชี้ชัดว่าไม้ของกลางที่ตรวจยึดมาได้นั้น เป็นไม้จันทร์หอม หรือพืชไม้ชนิดใดแน่และเพื่อให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อีกหลายหน่วยที่เข้าร่วมตรวจยึดและจับกุมรับข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อสรุปผลรายงานต่อผู้บังคับบัญชาต่อ
ด้าน ร.อ.กิตติศักดิ์ คงกระเรียน นายทหารฝ่ายยุทการ และการข่าว ศร.พัน 2 ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า จากเหตุการตรวจยึดจับกุมขบวนการมอดไม้ได้ของกลางเป็นจำนวนมากนั้น ในส่วนผลการรายงานนั้นทางเรายังไม่สรุปได้แน่ชัดว่าไม่ที่ตรวจยึดมาได้นั้นเป็นพันธ์ไม้ชนิดได้แน่ เนื่องจากไม่มีความเชี่ยวชาญทางด้านนี้ ยังคงต้องรอรายงานผล จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านตรวจสอบอีกครั้ง จึงจะทำรายงานการตรวจยึดส่งให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ ส่วนการรายงานเบื้องตนของชนิดและประเภทไม้นั้นเนื่องจากชาวบ้านบอกว่าเป็นไม้จันทนาที่ใช้ประโยชณ์ในทางสมุนไพร แต่หากพิสูจน์ทราบแน่ชัดว่าไม้ที่ตรวจยึดมานั้นเป็นไม้จันทร์หอมที่ใช้เฉพาะในพระราชพิธีสำคัญต่างๆในสำนักพระราชวัง ต้องมีการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และอาจจะต้องดำเนินการสอบสวนหานายทุนจ้างวานเพื่อนำตัวมาลงโทษให้ได้เนื่องจากเป็นไม้หวงห้ามตาม พรบ.ป่าไม้///////////////
พิสิษฐ รื่นเกษมข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์โทร 064-364-1644 รายงาน

You missed