จ.ชุมพร-ตร.ชุมพรจับยกทีมเมีย-ลูกบงการฆ่าผัว รวบ 7 คน ยังหนี 2 คนปมขัดแย้งเรื่องทรัพย์สิน-ชู้สาว
จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คนใช้อาวุธปืนสงครามร่วมประกบรัวยิงนายธวัฒน์ เวชสุวรรณ อายุ 54 ปี เสี่ยเจ้าของสวนทุเรียนกว่า 100 ไร่ จำนวน 3 นัด เสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมอยู่บริเวณหน้ารั้วประตูบ้านตนเองริมถนนลาดยางสายบ้านทุ่งเพลี้ยในพื้นที่หมู่ 11 ตำบลบ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร หลังขับรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด เอเวอร์เรสป้ายแดงกลับมาจากในพื้นที่อำเภอสวี และพบว่ามีทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตสูญหายเป็นสร้อยคอทองรูปพรรณจำนวน 1 เส้น และสร้อยข้อมี 1 เส้น รวมน้ำหนัก 20 บาท เกิดเหตุเมื่อประมาณ 01.00 น.วันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นคดีอุจฉกรรจ์สะเทือนขวัญและเป็นที่สนใจของประชาชนตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 17 ม.ค.67 ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ(ศปก.)สถานีตำรวจภูธรเมืองชุมพร พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางในการก่อเหตุคดีดังกล่าว โดยกล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุจึงได้มอบหมาย พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ รอง ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.ภาณุเดช ณ พัทลุง ผบก.ภ.จว.ชุมพร จัดตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อให้ร่วมกันสืบสวนหาตัว คนร้ายทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร และ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธร เมืองชุมพรสืบสวนทางนิติวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีข้อมูลเชื่อได้ว่ามูลเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากความขัดแข้งภายในครอบครัว ซึ่งเป็นการกระทำความผิด โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำของคนร้ายหลายคน ต่อมาวันที่ 12 มกราคม 2567 ได้ขออำนาจศาลจังหวัดชุมพร ออกหมายจับผู้ต้องหาคือ นางบุญเยี่ยม เวชสุวรรณ ภรรยาผู้ตาย น.ส.อาภาพร เวชสุวรรณ ลูกสาว น.ส.นิยม ปรีชามาตร์ นายปราโมทย์ แซ่เดี่ยว น.ส.พรชนก นวลละออง นายจับ ขนะสิทธิ์ และ นางกุศล อักษรพันธ์ และต่อมาในวันที่ 14 มกราคม 2567 ได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยการจับกุมได้ทำการตรวจยึดของกลางสำคัญ ที่เกี่ยวข้องในคดี คือ รถยนต์และรถจักรยานยนต์คันที่เกี่ยวข้องในการก่อเหตุรวมจำนวน 2 คัน ในส่วนของสร้อยคอทองคำและสร้อยข้อมือทองคำที่ถูกคนร้ายประทุษร้ายไป อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตาม กลับคืน
และจากการสอบสวนปากคำผู้ต้องหาที่จับกุมมาได้ ทำให้ทราบตัวคนร้ายเพิ่มอีกจำนวน 2 คน คือ นายรีต เห็นหมาน และ นางสุรัญตา ดอกกะฐิน ต่อมาในวันที่ 17 มกราคม 2567 พนักงานสอบสวนจึงได้ ขออำนาจศาลจังหวัดชุมพรออกหมายจับคนร้ายเพิ่มเติมจำนวน 2 คนดังกล่าว เพื่อจะได้ดำเนินการติดตามจับกุม ตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายจนกว่าจะถึงที่สุดต่อไป
พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 กล่าวอีกว่า เป็นที่น่าเสียใจของญาติผู้เสียชีวิตและฝั่งผู้ก่อเหตุเป็นผู้ใกล้ชิดกันแต่เลือกวิธีการที่ผิดกฎหมายขณะนี้ติดตามตัวจับกุมผู้ต้องหาได้ 7 คน ยังหลบหนี 2 คน ส่วนคนยิงจับได้แล้ว 1 คน คาดว่าได้ตัวในเร็ววันนี้ผู้จ้างวานและผู้เสียชีวิตเป็นครอบครัวเดียวกัน ระยะหลังมีปัญหาความขัดแย้งกันโดยทางภรรยาได้จ้างวานฆ่าสามีทำให้นายธวัฒน์ เสียชีวิต
ผบช.ภ.8 กล่าวอีกว่า ส่วนปมขัดแย้งมาจากการใช้ทรัพย์สินออกไปในทางที่ไม่ดี ซึ่งเป็นเรื่องภายในครอบครัว อีกทั้งประเด็นปมปัญหาเรื่องชู้สาวด้วยผู้เสียชีวิตมีการใช้ทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก โดยนางบุญเยี่ยมซึ่งเป็นภรรยา ได้ไปปรึกษากับน.ส.นิยม ปรีชามาตร์ นายปราโมทย์ สองสามีภรรยา โดยนายปราโมทย์ได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 2 แสนบาท หลังจากนั้นได้จัดหาผู้ร่วมทีม หาอาวุธ ยานพาหนะ และคนเอาทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดไปขาย ส่วนอาวุธสงครามที่ใช่ก่อเหตุอยู่ระหว่างติดตามและสืบหาที่มาที่ไป น.ส.นิยม ปรีชามาตร์ นายปราโมทย์ ถูกจับได้ที่จังหวัดชลบุรี”
………………………………………………………..
***เอกชนะ นวนละมัย ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจ.ชุมพร098-9515199