ลำปาง-ชาวบ้านขวัญคีรี อ.งาว ร้องขอถนนทางเข้าหมู่บ้านที่สัญจรไปมาลำบากมากว่า 40 ปี ขนพืชผลการเกษตรก็ลำบาก เด็กไปเรียนหนังสือก็เดือดร้อน
เมื่อวันที่ 23 ก.พ.2567 ที่ จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้าน บ้านขวัญคีรี หมู่ 11 ต.บ้านร้อง อ.งาว จ.ลำปาง ร้องขอถนนทางเข้าหมู่บ้าน ที่เป็นทางดินเป็นหลุมเป็นบ่อชาวบ้านสัญจรไปมาลำบากมากว่า 40 ปี หน้าฝนก็เป็นโคลน ขนพืชผลการเกษตรก็ลำบาก รวมทั้งเด็กนักเรียนไปเรียนหนังสือได้รับความเดือดร้อน ชาวบ้านเคยทำเรื่องขอทำถนน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอ้างว่า ติดขัดเรื่องกฎหมายป่าไม้ ซึ่งทาง อบต.บ้านร้องไม่สามารถใช้งบทำถนนเทคอนกรีตได้ ที่ผ่านมาทำได้เฉพาะปรับพื้นที่ให้เรียบเท่านั้นและปัญหาก็วนกลับมาสภาพเหมือนเดิม รถไม่สามารถสัญจรได้ตลอดฤดูกาลและในช่วงนี้ก็เป็นฝุ่นยิ่งกว่า PM2.5 บางจุดฝุ่นก็ลึกหนากว่า 20-30 ซม.ซึ่งส่งผลกระทบถึงผู้สัญจรไปมา วอนช่วยเหลือชาวบ้านด้วย
นายศรีทอง สมพงษ์ ผญบ.บ้านขวัญคีรี เปิดเผยว่า บ้านขวัญคีรี มี 2 หมูบ้านคือบ้านขวัญคีรีนอก ประชากร 280 คนบ้านขวัญคีรีใน ประชากร 140 คน รวม 2 หมู่บ้านมีประชากร 320 คน ประกอบอาชีพเกษตรกรทำไร่ข้าวโพด ทำนา ปลูกผัก ปลูกหอม โดยบ้านขวัญคีรีนอกห่างจากตัว อ.งาว 26 กม.บ้านขวัญคีรีใน ห่างจากตัว อ.งาว 35 กม.เป็นพื้นที่ภูเขา การคมนาคมลำบาก โดยเฉพาะเส้นทางเข้าหมู่บ้านแยกจากบ้านข่อย หมู่ 4 ถึงบ้านขวัญคีรี หมู่ 11 ต.บ้านร้อง ระยะทาง 8 กม. มีสภาพทรุดโทรมทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งโดยเฉพาะนักเรียนที่เดินทางไปเรียนที่โรงเรียนบ้านนาแรม ต.บ้านร้อง ห่างจากบ้านขวัญคีรี 14 กม.โดยไปโรงเรียนกินนอน เข้าพักที่โรงเรียนวันอาทิตย์และกลับมาบ้านวันศุกร์ได้รับความลำบากเนื่องจากถนนไม่ดี
ผญบ.บ้านขวัญคีรี กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านได้ทำเรื่องไปยัง อบต.บ้านร้อง ที่ว่าการอำเภองาว สำนักงานทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปาง ตั้งแต่ปี 2566 เรื่องขอความช่วยเหลือชาวบ้านขวัญคีรี ประสบปัญหาเรื่องถนนดังกล่าว หลังการร้องเรียน ทาง อ.งาว ได้แจ้งให้ อบต.บ้านร้องเข้าดำเนินการซ่อมแซมถนนสายบ้านข่อย – บ้านขวัญคีรี ต.บ้านร้อง ระยะทาง 8 กม.และซ่อมแซมถนนสายบ้านขวัญคีรีใน ต.บ้านร้อง – ปากทางบ้านบ่อสี่เหลี่ยม ต.ปงเตา ระยะทาง 14 กม.เทลูกรังในจุดที่ถนนลื่นและเป็นหลุมให้ชาวบ้านสัญจรโดยไม่เสี่ยงอันตรายไปพลางก่อน และกรมป่าไม้ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ถนนดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่โป่ง ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1A จะต้องมีการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)และขออนุญาตใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าไม้ตามระเบียบทางราชการต่อไป
นายศรีทอง กล่าวอีกว่า ปัจจุบันชาวบ้านได้รับความยากลำบากในการเดินทางเหมือนเดิม เป็นเวลากว่า 40 ปีมาแล้ว หมู่บ้านแห่งนี้ชาวบ้านอาศัยมานานกว่า 100 ปี แต่ถนนก็ยังเหมือนเดิมไม่มีการพัฒนา แม้แต่แผนพัฒนาหมู่บ้านก็ไม่สามารถนำเสนอต่อ อบต.บ้านร้องได้ ถนนชำรุดชาวบ้านต้องเรี่ยไรออกเงินซ่อมแซมกันเอง ราษฎรได้รับความเดือดร้อนโดยเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินที่ต้องนำส่ง รพ.และเด็กที่ต้องไปเรียนและเป็นถนนที่เชื่อมต่อกันหลายหมู่บ้านเช่น บ้านแม่คำหล้า บ้านแม่งาวใต้ บ้านผาแดง บ้านใหม่ และบ้านปากบอก รวม 6 หมู่บ้าน ถ้าจะเดินทางไปติดต่อราชการต่างๆต้องอ้อมเข้า อ.เมืองพะเยา ลงมายัง อ.งาวซึ่งต้องใช้ระยะทาง 80 กม.ไป-กลับก็ 160 กม. แต่ถ้ามีการพัฒนาถนนจากบ้านข่อย ถึง บ้านแม่งาวใต้รวมระยะทาง 28 กม.ซึ่งถนนเส้นนี้จะผ่านบ้านขวัญคีรีและบ้านแม่คำหล้า ประชาชนจะได้รับประโยชน์ทั้งหมด 6 หมู่บ้าน สามารถย่นระยะทางอ้อมไปผ่าน จ.พะเยา 80 กม. ก็จะเหลือระยะทางแค่ 40 กม.
“เพื่อแก้ปัญความเดือดร้อนดังกล่าวในวันนี้ ทางชาวบ้านได้ร่วมเสียสละทุนทรัพย์ร่วมระดมทุนช่วยเหลือกันเองเพื่อปรับปรุงถนนทางเข้าบ้านขวัญคีรี ซื้อปูน หิน ทราย ตามกำลังทรัพย์ที่มีเพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้สัญจรไป-มาและใช้ขนผลผลิตพืชผลทางเกษตรชั่วคราว สำหรับผูที่มีจิตศรัทธาร่วมสมทบทุนช่วยเหลือ เลขที่บัญชี 020 249 933 068 ธนาคารออมสิน ชื่อบัญชี กองทุนพัฒนาหมู่บ้านขวัญคีรี หรือสมทบ ปูน หิน ทราย ส่งมาได้ที่บ้านขวัญคีรี หมู่ที่ 11 ต.บ้านร้อง อ.งาว จ.ลำปาง หรือโทร. 097-0574956.”นายศรีทอง กล่าว.
วินัย/ลำปาง รายงาน