รวบหนุ่มมหาภัยลวงเหยื่อหญิงสาวแท้ สาวประเภทสอง ร่วมหลับนอนก่อเหตุลักทรัพย์

รวบหนุ่มมหาภัยลวงเหยื่อหญิงสาวแท้ สาวประเภทสอง ร่วมหลับนอนก่อเหตุลักทรัพย์.

ตำรวจตามรวบหนุ่มมหาภัย หน้าตาดีออกอุบาย ลวงหญิงแท้ สาวเทียมในแอพหาคู่ ร่วมหลับนอน ลักทรัพย์ หลบหนี ถูกจับรับสารภาพก่อเหตุโซกโซน

เมื่อวันที่ 6 มี.ค.67 เวลา 08.00 น.โดยการอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ สั่งการให้ พ.ต.อ.วินิจฉัย พินิจศักดิ์ ผกก.สภ.ช้างเผือก พ.ต.ท.พีระพล ขวาของ สว.สส.สภ.ช้างเผือก พร้อมชุดสืบสวนสภ.ช้างเผือกได้ทำการจับกุมตัวนายพันธกานต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี บ้านอยู่อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า แกรนด์ฟีลาโน่ 125 ซีซี สีชมพู (ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน) จำนวน 1 คัน นำตัวดำเนินคดีในข้อหา“ลักทรัพยในเวลากลางคืน หรือรับของโจร ”

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อคืนวันที่ 4 ธ.ค.67 ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าทีตำรวจสภ.ช้างเผือก ได้รับแจ้วงจากนายบี (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นสาวประเภท 2 ว่าได้ถูกชายหนุ่มหน้าตาดีหลอกเอาเงินและขโมยโทรศัพท์และรถจักรยานยนต์ของกลางไป ซึ่งจากสอบสวนก็ทราบว่าผู้ต้องหาคือนายพันธกานต์ ได้สร้างโปรไฟล์ หรู ในแอพหาคู่ชื่อดังหลายแอพในประเทศ ไทย และก่อเหตุหลอกลวงหญิงสาวแท้ และหญิงเทียม สาวประเภทสอง (กระเทย) โดยเลือกผู้เสียหายอยู่ในเชียงใหม่ เป็นหลัก โดยรายของนายบี (นามสมมุติ) ผู้ต้องหาหลอกว่า ทำงานบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย และขอให้นายบี (นามสมมุติ) มารับที่สนามบิน นายบี (นามสมมุติ) หลงกลก็ไม่รับที่สนามบินเชียงใหม่ ก่อนพาไปดื่มเหล้าที่ร้านเหล้าย่านถนนนิมาน และไปต่อร้านอาหาร ย่านสันติธรรม ผู้ต้องหาก็ทำทีลืมโทรศัพท์ไว้ที่ร้านเหล้าและยืมโทรศัพท์ไอโฟน รุ่น 15 พลัส สีชมพู และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า แกรนด์ฟีราโน่ 125 ซีซี สีชมพู ของผู้เสียหาย ออกจากร้านอาหารเพื่อไปเอาของก่อนจะหายสาบสูญ และนายบี (นามสมมุติ)ก็ติดต่อนายพันธกานต์ (สงวนนามสกุล) ไม่ได้เลย ทางผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความกบพนักงานสอสวนไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ช้างเผือก ก็มาตรวจสอบข้อมูล ปรากฏว่าในช่วง 2 เดือนนี้จังหวัดเชียงใหม่ เกิดคดีลักษณะนี้มาแล้วกว่า 6 คดี มีทั้งสาวประเภท สองและหญิงสาวแท้ๆ โดนคนร้ายก่อเหตุลวงและลักทรัพย์หลบหนีเหมือนกัน และผู้ต้องหาคนเป็นคนเดียวกัน และ ก่อเหตุในท้องที่ สภ.ดอยสะเก็ด 1 คดี สภ.ช้างเผือก 2 คดี, สภ.สันป่าตอง จำนวน 1 คดี และพื้นที่ สภ.เมืองเชียงราย 1 คดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัว จนกระทั่ง ต่อมาเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2567 เจ้าพนักงานตำรวจสืบสวนทราบว่า นายพันธกานต์ฯ หลังจากก่อเหตุแล้วได้หลบหนีไป อยู่ที่บ้าน หมู่ที่ 1 ต.สันกลาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านของ นางดา (ปิดนามสกุล) (แม่ของนายพันธกานต์ฯ) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ประสาน ตำรวจ สภ.สันป่าตอง เข้าร่วมกันตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบ นางดา (ปิดนามสกุล) แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งความประสงค์ให้ทราบ พร้อมกับสอบถามเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ของกลางซึ่งจอดอยู่ที่บริเวณบ้านหลังดังกล่าว และพบทรัพย์สินอื่นๆอีกหลายรายการ จึงได้ทำการตรวจยึดไว้
จากนั้นทางชุดสืบสวน สภ.ช้างเผือกได้ทำการตรวจกล้องวงจรปิดก็พบเส้นทางหลบหนีของคนร้ายใช้วิธีอย่างแนบเนียนโดยทำที ไปจอดรถไปนั่งในอาหารแต่ละร้านที่มีหญิงสาว แท้ และสาวประเภทสอง แห่งละชั่วโมงทั้งคืนก่อนก่อเหตุและ หลบหนีกลับบ้าน อ.สันป่าตอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนจับกุมตัวเอาไว้ได้ในเวลาต่อมา
เบื้องต้นจากการสอบสวนปากคำ นายพันธกานต์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตนเองชอบติดเที่ยวติดหรู เที่ยวแหล่งบันเทิงย่านนิมานทุกวัน ต้องหาเงินไปกินเที่ยว จึงคิดวิธีหลอกเหยื่อทั้งหญิงสาวแท้ และสาวประเภทสอง แบบนี้ขึ้นมา โดยเลือกเหยือมีทั้งผู้หญิง และสาวประเภทสอง ตามสถานบนเทิงมาร่วมหลับนอน จากนั้นได้ำการลักทรัพย์ ทั้งเงิน รถจักรยานยนต์ โทรศัพท์ หลบหนี ก่อนนำไปขายตามเพจต่างๆ และลบแอพส่วนตัวที่สร้างขึ้นมาหลอกเหยื่อทิ้งไป และจะสร้างแอพใหม่ ขึ้นมาหลอกลวงเหยื่อีก โดยทำทีนั่งรถไปสนามบิน หลอกเหยื่อว่าตนบินมาจากจังหวัดอื่นๆเพื่อให้เหยื่อสับสน และหลงเชื่อ ไปรับก่อนพาไปเที่ยวตามสถานบันเทิงย่านนิมมาเหมินทร์ และพาเหยื่อไปร่วมหลับนอน ก่อนลักทรัพย์หลบหนี จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัว จึงได้ให้การรับสารภาพ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวดำเนินดคีตามกฏหมายต่อไป
**************************
นิวัตร ธาตุอินจันทร์ เชียงใหม่