วันนี้(5)พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติ เปิดงานมหกรรม “จากพันธุกรรม สู่ความยั่งยืน  ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี  ระหว่างวันที่ 5-7 เมษายน 2567 โดย พลอากาศเอก เสนาะ พรรณพิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัว เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมจากพันธุกรรม สู่ความยั่งยืน การจัดงานในครั้งนี้เพื่อน้อมสำนึกในพระมทากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาลบพิตร ในการอนุรักษ์ทรัพยากร และสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการพระดำริที่ เกี่ยวเนื่องกับการอบ รักษณ์ ทรั พยากรรวมทั้งเทิดพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุตาฯ สยามบรมราชกุมารีเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ ๒ เมษายน ๒๕จ๗ พบกับนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพร้ดนราชสุตาฯ สยามบรมราชกุมารี ต้นแบบการอนุรักษ์ธรรมชาติของปวงชนชาวไทย และนิทรรศการจากเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตร จากพื้นบ้าน สู่ความยั่งยืน พร้อมเรียนรู้อบรมวิชาของแผ่นดินและอบรมเชิงปฏิบัติการ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ชม ชิมข้อป สินค้ผลผลิตเกษตรคามฤดูกาล จากร้านค้าเครือข่ายและภาคีความร่วมมือจากทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 5-7ามษายน 2567 เวลา 08.00- 17.00น.

  พลอากาศเอก เสนาะ พรรณกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปิดเผยว่า “สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติๆ ทำหน้าที่ในการเผยแหร่พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพของพระมหากษัตริย์ไทยด้านการเกษตร และขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นหน่วยงานสนองโครงการอน รักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ มาตั้งแต่ปี พ ศ. 2554 ยังคงมุ่งมั่นในการสืบสานพระราชปณิธานเพื่อปกปักรักษาดิน น้ำ ปา พันธุกรรมและทรัพยากรไทย รวมทั้งการส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยหมู่เหล่าได้ “รู้คุณค่า :ใช้ประโยชน์” ทรัพยากรไทย และร่วมกันรักษาไว้สืบไปโดยความเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ในทุกภูมิภาคของประเทศไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรฯมีความตระหนักและให้ความสำคัญอย่างยิ่ง จึงได้จัดนิทรรศการหมุนเวียน “จากพันธุกรรม สู่ความยั่งยืน” ขึ้นในครั้งนี้-

กิจกรรมเด่นภายในงาน ได้แก่ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพร้ฒนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงเป็นต้นแบบต้านการอนุรักษ์ทรัพยากรที่นำไปสู่การใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน พร้อมส่งต่อและสร้างแรงบันตาลใจให้กับประชาชนในการดูแล รักษา แบ่งปันแลกเปลี่ยน และขยายผลสู่ความยั่งยืนพันธุกรรมพื้นบ้าน ผ่านฐานนิทรรศการทั้ง ๖ โซน ประกอบด้วย พันธุกรวมเพื่อการอนุรักษ์ ความหลากหลายทางนิทรรศการจากเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตร “จากพันธุกรม สู่ความยังยืน” โดยย่อเรื่องราวของพันธุกรรมข้าวพื้นบ้าน ข้าวกับประเพณีและวัฒนธรรม วิถีชีวิตและภูมิปัญญากับพันธุครรมข้าวพื้นบ้าน และการแปรรูปข้าว นิทรรศการผักพื้นบ้าน 72 ชนิด นำเสนอผักพื้นบ้านประจำถิ่น ผักพื้นบ้านทายากมาจัดแสดงให้เรียนรู้ทดลองชิมรสชาติที่แตกต่างกัน นิทรรศการมาดื่ม มาครั้ง Wsdomking coffee พร้อมกิจกรรมเรียนรู้เรื่องราวการจัดการกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อการพัฒนาอาชีพที่มั่นคง จากร้านกาแฟทั่วประเทศ ๒๖ ร้านค้าพลาดไม่ได้กับการอบรมวิชาของแผ่นดินและอบรมเชิงปฏิบัติการกว่า ๑๒ หลักสูตร ได้ทั้ง Onsite และOnline ฟรี อาทิ หลักสูตร นานาสายพันธุ์กาแฟ โดยอาจารย์สุทิศา พรมชัยศรี เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จ.ชุมพรหลักสูตรเทป่าเช่ เครื่องดื่ม โปรไปโอต๊ก สไตล์ เมกชิกัน อาจารย์ลายซล ธารงโซติ เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯจ.ชัยนาท หลักสูตรพันธุกรรมว่านไทย อาจารย์สุวัฒนชัย จำป่ามูล เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตร จ.นครราชสีมา และหลักสูตรเห็ดเจ็ดชั่วโคตร ผค.ตรอุทัย อันพิมพ์ คณะบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เป็นต้นร่วมกันอนุรักษ์พร้อมส่งต่อพันธุกรมให้กับคนรุ่นใหม่ กับกิจกรรม เพาะ แจก แลก เปลี่ยน พันธุกรรมพืช ชม ชิม ช้อปสินค้าเกษตรปลอดภัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กว่า 15 ร้านค้า  ทั้งของกิน ของใช่ผลิตภัณฑ์แปรรูป ต้นไม้พันธุ์ไม่ โตยเกษตรกรเครือชายพิพิธภัณฑ์เกษตร” ในราคามิตรภาพพิเศษ เปิดเข้าชมพิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม พิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร และพิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา ในกรณีพิเศษเนื่องในโอกาสวันจักรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สนุกเพลิตเพลินกับการจัดแสตงด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้าชมเรียนรู้ได้ทุกวัยสอบถามรายละเอียดเพิ่มwww.wisdomking.orth Mie facebook / Line D.: @wisdomkingmuseum

ขุนพล ไพโรจน์/รายงาน

You missed