D7100

วันนี้เวลา ๑๓.๐๐ น. มูลนิธิทนายกองทัพธรรม โดยนายอนันต์ชัย ไชยเดช และคณะ ได้มายื่นหนังสือร้องเรียนต่อพระครูปริยัตยาคม ขอให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนและลงนิคหกรรม พระฐิติศักดิ์ สุภฺทโท อดีตเจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์ (วัดสีชมพู) จังหวัดปทุมธานี

D7100
D7100
D7100
D7100

ฐานประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเป็นอาจิณ และดูหมิ่นจาบจ้วงคณะสงฆ์ ไม่อยู่ในโอวาทกระด้างกระเดื่องต่อเจ้าอาวาสที่เป็นผู้บังคับบัญชา

เนื่องจากเมื่อวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๐.๐๐ น. มีการประชุมร่วมกันระหว่างตัวแทนคณะสงฆ์จังหวัดปทุมธานี, พระครูปริยัตยาคม เจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์, มูลนิธิทนายกองทัพธรรม, ผู้แทนนายอำเภอและฝ่ายปกครอง และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี เพื่อหาข้อยุติปัญหาร่วมกัน ปรากฎว่าพระฐิติศักดิ์ สุภฺทโท เข้ามาในที่ประชุมดังกล่าว มีวิวาทะและกล่าวหาว่าการกระทำที่เป็นอาบัติสังฆาทิเสสตามที่ตนเองทำนั้นมันเป็นเรื่องธรรมดา มีการกล่าวหาคณะสงฆ์ภายในวัดทวีการะอนันต์ ที่มาร่วมประชุมจำนวน ๓๑ รูป ท่ามกลางที่ประชุมว่า “ถามเลย ใครที่นั่งเนี่ยไม่เคยชักว่าวบ้าง มันเป็นเรื่องธรรมดา จะมาไล่ฉันออกทำไม” ซึ่งหมายความว่า คณะสงฆ์ที่นั่งอยู่ในที่ประชุมแห่งก็ละเมิดพระวินัยถึงขั้นสังฆาทิเสสเช่นเดียวกับตน ดังนี้ เป็นการหมิ่นประมาทและดูหมิ่นให้ร้ายคณะสงฆ์แสดงให้เห็นเป็นประจักษ์ว่า พระฐิติศักดิ์ สุภฺทโท มีพฤติกรรมล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเป็นอาจิณ และไม่สำนึกในพฤติการณ์ที่ตนเองกระทำ เป็นการไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การกระทำของพระฐิติศักดิ์ สุภฺทโท เป็นการกระทำที่เป็นโลกวัชชะชาวบ้านติเตียนไม่ยอมรับพฤติกรรมที่นอกรีตนอกรอยและละเมิดพระธรรมวินัย หมิ่นประมาทพระธรรมวินัยอย่างไม่มีการละอายและเกรงกลัวต่อบาปที่หยาบช้าเช่นนั้น และตั้งแต่ละเมิดครุกาบัติสังฆาทิเสสดังกล่าว ยังไม่มีการอยู่ปริวาสกรรมสำหรับพระภิกษุสงฆ์ที่บวชอยู่แล้วในพระพุทธศาสนาแต่ต้องครุกาบัติ หรือการประพฤติวุฏฐานวิธี คือ ระเบียบหรือขั้นตอนปฏิบัติตนเพื่อออกจากอาบัติ ๑, ปริวาส ๒. มานัต ๓. อัพภาน และ ๔. ปฏิกัสสนา แต่อย่างใด แสดงให้เห็นว่าไม่รู้สำนึกในสิ่งที่ได้กระทำลงไปเป็นการไม่เคารพในพระวินัยบัญญัติ

นอกจากนี้ พระฐิติศักดิ์ สุภฺทโท ยังได้จาบจ้วงหมิ่นประมาทและกล่าวหาพระครูปริยัตยาคม ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์ และเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่งว่า “เลี้ยงเด็ก กินเด็ก” หมายถึง มีการร่วมเพศอันเป็นการกล่าวหาว่าเป็นพระภิกษุที่ละเมิดพระธรรมวินัยที่เป็นครุกาบัติขั้นอาบัติปาราชิก และยังข่มขู่พระครูปริยัตยาคม เจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์ว่า หากตนเองอยู่ไม่ได้ท่านก็อยู่ไม่ได้ หมายความว่า หากพระฐิติศักดิ์อยู่ในวัดแห่งนี้ไม่ได้เจ้าอาวาสก็อยู่ไม่ได้ เป็นการข่มขู่เจ้าอาวาสต่อหน้าที่ประชุมสงฆ์และสื่อมวลชนที่กำลังเสนอข่าวไปทั่วประเทศ สร้างความหวาดกลัวให้เกิดขึ้นแก่พระครูปริยัตยาคมทำให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสได้ การกระทำดังกล่าวเป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงาน, หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาต่อผู้บังคับบัญชาเหนือตน ข่มขู่เจ้าพนักงานและผู้บังคับบัญชา เนื่องจากพระครูปริยัตยาคมเป็นเจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์ และพระฐิติศักดิ์ สุภฺทโท เป็นผู้อยู่ในบังคับบัญชา การกระทำของพระฐิติศักดิ์ สุภฺทโท ยังมีอีกมากมายหลายประการที่เกี่ยวข้องกับความผิดอาญาของฝ่ายบ้านเมือง ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต เนื่องจากการกระทำที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเงินของวัดในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ซึ่งอยู่ในขั้นตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ

จึงขอให้สอบสวนพระฐิติศักดิ์ สุภฺทโท ตามกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๒๑) ว่าด้วยการลงนิคหกรรม ในฐานความผิดตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ และ พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๒๗ เมื่อพระภิกษุรูปใดต้องด้วยกรณีข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้ (๒) ประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเป็นอาจิณ ให้พระภิกษุรูปนั้นสละสมณเพศตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่กำหนดในกฎมหาเถรสมาคม พระภิกษุผู้ต้องคำวินิจฉัยให้สละสมณเพศตามวรรคสอง ต้องสึกภายใน ๓ วันนับแต่วันที่ได้รับทราบคำวินิจฉัยนั้น ดังนี้ มาตรา ๒๖ พระภิกษุรูปใดล่วงละเมิดพระ วินัย และได้มีคำวินิจฉัยถึงที่สุด ให้ได้รับนิคหกรรมให้สึก ต้องสึกภายใน ๒๔ ชั่วโมงนับแต่เวลาที่ได้ทราบคำวินิจฉัยนั้น และ มาตรา ๔๓ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๑๕ จัตวา วรรคสอง มาตรา ๒๖ มาตรา ๒๗ วรรคสาม หรือมาตรา ๒๘ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ทั้งนี้ ความผิดดังกล่าวเป็นโลกวัชชะชาวโลกติเตียน เพื่อให้คณะสงฆ์พิจารณาวินิจฉัยลงนิคหกรรมให้ลาสิกขาหรือตามฐานความผิดตามพระวินัยอื่นๆ เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยต่อการปกครองคณะสงฆ์ และป้องกันและบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อพระพุทธศาสนาในประเทศไทยสืบต่อไป.

ขุนพล ไพโรจน์/รายงาน

You missed