มท.2 ชี้แจง กรณีเพจดังจี้ อนุทิน ตอบด่วน ! เก็บค่าสมัครสอบข้าราชการท้องถิ่น 5 แสน ชาวเน็ตเมนต์พรึบ เผยขณะนี้ยังไม่มีการประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน เน้นย้ำพบเบาะแส
รีบแจ้งกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น พร้อมเตือนผู้สมัครสอบหากพบทุจริต ต้องถูกปรับให้ตก และถูกตัดสิทธิ์ ไม่ให้สมัครสอบแข่งขันเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่นไปตลอดชีวิต
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มท.2 ได้ออกมาชี้แจงกรณีเพจดังอย่าง “อีซ้อขยี้ข่าว” โพสต์ภาพและข้อความถามลูกเพจว่า “ถ้าจะสอบบรรจุข้าราชการท้องถิ่น ต้องจ่ายค่ามัดจำรายชื่อก่อนสมัคร 50,000 บาท (งวดที่ 1) ภายในเดือน ก.ค. เท่านั้น 200,000 บาท ตอนสมัครตำแหน่งสอบ (งวดที่ 2) 250,000 บาท หลังประกาศผลสอบภาค ก, ข (งวดที่ 3) แต่ถ้าประกาศผลว่าไม่ผ่าน ไม่มีรายชื่อ คืนเงิน
ที่จ่ายมา 250,000 บาท และ 50,000 บาท ก่อนสัมภาษณ์ พร้อมลงภาพแนบรายละเอียดปฏิทินการรับสมัครสอบข้าราชการท้องถิ่นเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา โดยมีกำหนดการจะมีบรรจุในช่วงเดือนมกราคม 2567 อีกด้วย” นั้น
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มท.2 เปิดเผยว่า ข้อความที่ปรากฏในข่าว
เป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง เนื่องจากในปี พ.ศ. 2566 – 2567 ยังไม่มีการดำเนินการจัดสอบ การบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเพื่อเข้ารับราชการ หรือ พนักงานส่วนท้องถิ่น แต่ได้มีการประชุมคณะกรรมการกลางข้าราชการ หรือ พนักงานส่วนท้องถิ่นครั้งที่ 6/2565 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 โดยมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) ดำเนินการสอบแข่งขันในตำแหน่งและอัตราว่าง และได้มอบให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นดำเนินการจัดหามหาวิทยาลัยจัดสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการ หรือ พนักงานส่วนท้องถิ่น เท่านั้น ซึ่งในขณะนี้ ยังไม่มีการลงนามจ้างมหาวิทยาลัยแห่งใด รวมทั้งยังไม่มีการประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน หรือ ดำเนินการสอบ แต่อย่างใด
“นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมเป็นภาคีเครือข่ายการป้องกัน ต่อต้าน และปราบปรามการทุจริตการสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 ณ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และท่านเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ท่านเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ท่านผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ท่านประธานคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขัน และตนได้ร่วมกันลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมมือกันรณรงค์ให้ความรู้ประชาชนโดยทั่วไป การป้องกัน การต่อต้าน และปราบปรามการทุจริต รับฟังข้อมูลหรือ การชี้เบาะแสการทุจริตเกี่ยวกับการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น และหากปรากฏข่าวการทุจริตภาคีเครือข่ายจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน โดยมีการประสานข้อมูลระหว่างกัน”
นายทรงศักดิ์ ทองศรี ได้กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่ปรากฏในข่าวว่า มีการเรียกรับเงินเป็นจำนวนหลายแสนบาท โดยแบ่งชำระเป็นหลายงวด หากไม่ผ่านยินดีคืนเงิน ขอความร่วมมือประชาชนอย่าได้หลงเชื่อโดยเด็ดขาดและขอให้รับข้อมูลข่าวสารจากช่องทางของทางหน่วยงานราชการเป็นหลัก โดยหากพบเบาะแส หรือ ได้รับการติดต่อที่มีการเรียกรับเงิน เพื่ออำนวยความสะดวก หรือ ช่วยเหลือให้ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งได้ ขอให้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้กล่าวอ้างดังกล่าวทันที หรือส่งข้อมูลพยานหลักฐานมายังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นที่หมายเลขโทรศัพท์ 089 961 6952 หรือ 089 901 1055 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ สามารถแจ้งโดยตรงมายังสำนักงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) กระทรวงมหาดไทย หมายเลขโทรศัพท์ 02 221 4201 หรือแจ้งข้อมูลเบาะแสได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย 1567 ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยโดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และเครือข่ายทุกหน่วยงาน ทั้งสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ท. และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) จะประสานงานและบูรณาการข้อมูลร่วมกัน เพื่อนำไปประกอบการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ หากปรากฏหลักฐานว่ามีการสมยอมให้มีการเรียกรับเงิน เพื่อแลกกับการช่วยเหลือให้เป็นผู้สอบแข่งขันได้ ผู้สมัครสอบต้องถูกปรับให้ตก และถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้สมัครสอบแข่งขันเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่นไปตลอดชีวิต รวมทั้งต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง และทางอาญาด้วย