เชียงใหม่ สามีภรรยาโอดสายสัญญาณขวางทางเข้าบ้านเก็บพาดรั้วถูกแจ้งความ

เป็นงง สามีภรรยาชาว ต.หนองแหย่ง อ.สันทราย ถูกสายสัญญาณบนเสาไฟฟ้าแขวนลงมาขวางทางเข้าออกหน้าบ้านจึงนำเก็บพาดรั้วเพื่อนบ้านเพื่อเปิดทางเข้าบ้านตนเอง กลับถูกเพื่อนบ้านแจ้งความดำเนินคดีกลายเป็นผู้ต้องหา หลังจากนั้นเข้าร้องทุกปลัดจอมแฉ ก่อนจะขึ้นโรงพักกับทนายความแจ้งความการไฟฟ้า ขณะที่เพื่อนบ้านอีกรายที่อยู่ใกล้กับถูกแจ้งความดำเนินคดีหลังจากที่แมวเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าวเจ้าของบ้านอ้างแมวเข้าไปทำลายข้าวของเรียกค่าเสียหาย 2 หมื่นกว่าบาท จนต้องขนของย้ายไปอยู่ที่อื่น

นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีนายเจมส์ นามสสมุติ และนางสาวแขก นามสมมุติ สองสามีภรรยาผู้รับเหมา ชาวบ้านแห่งหนึ่ง ต.หนองแหย่ง อ.สันทราย ถูกเพื่อนบ้านรายหนึ่งแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน สภ.สันทราย ข้อหา ร่วมกันทำด้วยประการใดๆ ให้ของแข็งตกลง ณ ที่ใดๆ โดยประการที่น่าจะอันตรายหรือเดือดร้อนรำคาญแก่บุคคลหรือน่าจะเป็นอันตรายแก่ทรัพย์ หรือกระทำการด้วยประการใดๆให้ของโสโครกเปรอะเปื้อน หรือน่าจะเปรอะเปื้อนตัวบุคคลหรือทรัพย์สิน หรือแกล้งทำให้ของโสโครก เป็นที่เดือดร้อนรำคาญ ซึ่งเป็นคดีอาญา

หลังจากเมื่อปลายปีที่ผ่านมาได้มีสายสัญญาณที่แขวนบนเสาไฟฟ้าหน้าบ้านได้ห้อยลงมาขวางทางเข้าบ้าน ทำให้นายเจมส์ และนางสาวแขก ต้องใช้มือดันสายสัญญาณทุกครั้งเพื่อให้รถลอดผ่านไปได้เมื่อเข้าออกบ้านหลังจากนั้นมีรถส่งของมาส่งของที่บ้านซึ่งเป็นรถตู้ทึบหลังคาสูงไม่สามารถเข้ามาส่งของได้นายเจมส์ฯจึงได้นำสายสัญญาณไปพาดฝากกับรั้วเมทัลชีทของเพื่อบ้านหลังดังกล่าวชั่วคราวเพื่อให้รถส่งของเข้าไปส่งของในบ้านได้ ก่อนที่นายเจมส์ฯจะแจ้งผู้ใหญ่บ้านเพื่อประสานบริษัทเจ้าของสายสัญญาณมาเก็บสายสัญญาณที่ห้อยขวางทางออกไปหลังจากนั้นจึงถูกเพื่อนบ้านหลังดังกล่าวแจ้งความดำเนินคดี

ด้านนายเจมส์ นามสสมุติ ผู้ต้องหาเปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันนี้ตนกับภรรยาได้ไปรับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน พร้อมกับให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา เนื่องจากเห็นว่าตนกับภรรยาไม่ได้มีเจตนาจะทำให้เพื่อนบ้านหลังดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนและไม่ได้กลั่นแกล้งเพื่อนบ้านรายดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งตนกับคนในครอบครัวต่างหากที่ได้รับความเดือดร้อนจากสายสัญญาณที่ห้อยขวางทางเข้าออกบ้าน ถ้าหากปล่อยไว้อาจจะเกิดอุบัติเหตุกับคนในครอบครัวและชาวบ้านรายอื่นที่ขับรถผ่านสัญจรไปมา นอกจากนี้บ้านหลังดังกล่าวแม่ลูกๆและแม่ยาย อาศัยอยู่จึงไม่อยากมีเรื่องกับใครเนื่องจากส่วนใหญ่ตนกับภรรยาจะไปทำงานที่ต่างจังหวัด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนเสียความรู้สึกและกังวลว่าตนกับภรรยาจะมีคดีติดตัวทำให้เสียประวัติ ซึ่งตนได้แจ้งความกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่เป็นเจ้าของเสาไฟฟ้าที่บริษัทเจ้าของสายสัญญาณที่แขวนอยู่และห้วยลงมา ในส่วนคดีที่ตนกับภรรยาถูกฟ้อง ทราบว่าหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะได้มีการส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาต่อไป

สำหรับ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงวันที่ 29 ธันวาคม 2566 ขณะนั้นตนกับภรรยาเดินทางกลับจากทำงานที่ต่างจังหวัด ช่วงนั้นเป็นช่วงวันหยุดยาวสิ้นปี จึงตัดสินใจกลับบ้านที่เชียงใหม่ เพื่อมาอยู่กับครอบครัว พอมาถึงบ้านพบว่าสายสัญญาณที่อยู่บนเสาไฟฟ้าไดห้อยลงมาขวางทางเข้าออกบ้านจึงได้ใช้มือดันสายสัญญาณที่แขวนมาขวางทางเข้าบ้านสูงประมาณ 1.20 เมตร ซึ่งทุกครั้งเมื่อเข้า-ออกบ้านจะต้องใช้มือดันสายสัญญาณขึ้นให้สูงเพื่อให้รถลอดผ่านไปได้ และสลับกับภรรยาที่ต้องมุดสายสัญญาณเข้าออกบ้านอยู่นานหลายวันและได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ประสานเจ้าของสายสัญญาณ ช่วยมาเก็บสายสัญญาณ แต่ติดปัญหาเป็นวันหยุดยาวทำให้ไม่มีเจ้าหน้าที่มาจัดเก็บสายสัญญาณ ต่อมาเมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมาได้มีรถส่งของมาส่งของที่บ้านซึ่งเป็นรถตู้ทึบหลังคาสูงไม่สามารถเข้ามาส่งของได้นายเจมส์ฯจึงได้นำสายสัญญาณไปพาดฝากกับรั้วเมทัลชีทของเพื่อบ้านหลังดังกล่าวชั่วคราวเพื่อให้รถส่งของเข้าไปส่งของในบ้านได้ ก่อนที่นายเจมส์ฯจะแจ้งผู้ใหญ่บ้านเพื่อประสานบริษัทเจ้าของสายสัญญาณมาเก็บสายสัญญาณที่ห้อยขวางทางออกไปหลังจากนั้นจึงถูกเพื่อนบ้านหลังดังกล่าวแจ้งความดำเนินคดี

ขณะที่นางสาย นามสมมุติ เพื่อนบ้านหลังดังกล่าว เปิดเผยว่าตนก็ถูกเพื่อนบ้านหลังดังกล่าวร้องเรียนหลายครั้งทั้งเรื่องการก่อฟืนทำกับข้าวเขาอ้างว่าทำให้ส่งกลิ่นเหม็นไปบ้านเขาและมีเรื่องอื่นอีกหลายเรื่องที่ถูกร้องเรียน ล่าสุดเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อนบ้านรายดังกล่าวได้นำคลิบกล้องวงจรปิดแจ้งความพนักงานสอบสวนฯว่าแมวที่ญาติตนเลี้ยงไว้ได้เข้าไปทำลายทรัพย์สินในบ้านเสียหาย เมื่อญาติคนดังกล่าวไปรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งพนักงานสอบสวนตั้งข้อหา เป็นผู้ควบคุมสัตว์ หรือสัตว์ร้ายปล่อยปะละเลยให้สัตว์นั้นเที่ยวไปโดยลำพังให้ประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ หลังจากนั้นจึงเจรจากับคู่กรณีโดยได้เรียกมูลค่าความเสียหาย 5 หมื่นบาท ซึ่งญาติได้ขอดูคลิบวีดีโอหลักฐานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ก็ไม่ได้ดู ซึ่งหลังจากนี้สำนวนกำลังจะถูกส่งให้อัยการ ซึ่งญาติคนดังกล่าวไม่อยากขึ้นศาลให้เสียเวลาต้องยอมจ่ายค่าเสียหายเป็นเงิน 2 หมื่นกว่าบาท หลังจากนั้นญาติคนดังกล่าวได้ขนข้าวของย้ายไปอยู่ที่อื่นเพื่อตัดความรำคาญ

ด้านนายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ เปิดเผยว่า ในฐานะที่ตนเป็น ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย อดีตตนเคยเป็นปลัดอำเภอสันทราย รับผิดชอบตำบลหนองแหย่ง หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านกรณีดังกล่าว ต้องเห็นใจทั้งชาวบ้านทั้งสองฝ่าย ซึ่งสายสัญญาณที่หย่อนลงมาขวางหน้าบ้านอาจจะทำให้ชาวบ้านที่สัญจรไปมาได้รับอันตรายได้ และการนำสายสัญญาณไปพาดกับรั่วบ้านคนอื่นก็เป็นสิทธิ์ของเจ้าของบ้านที่จะแจ้งความดำเนินคดี เมื่อมีการแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องดำเนินคดีไปตามหน้าที่ ซึ่งกรณีดังกล่าวผู้ต้องหาทั้งสองน่าเห็นใจเนื่องจากไม่ได้เป็นตัวการที่เอาสายสัญญาณ ลงมาจากเสาไฟฟ้าให้ห้อยขวางบ้าน ครั้นหากตัดสายสัญญาณออกให้พ้นทางเข้าบ้านก็จะเสี่ยงถูกดำเนินคดีทำให้เสียทรัพย์ เมื่อนำสายสัญญาณไปพาดกับรั้วเพื่อนบ้านก็ถูกดำเนินคดีอีก หากปล่อยสายสัญญาณไว้ก็อาจจะเกิดอันตรายกับคนในครอบครัวหรือคนในหมู่บ้านอีก ประเด็นดังกล่าวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเข้ามาแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าของสายสัญญาณที่เป็นต้นเหตุ ทั้งนี้ตนจะได้ยื่นหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้แก้ไขปัญหาประเด็นดังกล่าว000000000จบ000000000 นิวัตร ธาตุอินจันทร์ เชียงใหม่