กปร. นำสื่อมวลชนสัญจร สืบสานพระราชดำริ
เยี่ยมชมศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ และอาคารนิทรรศน์พรรณพฤกษา ของบริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด จ.ระยอง


สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ได้นำคณะสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ในโครงการสื่อมวลชนสัญจร สืบสานพระราชดำริ ประจำปี 2567 ชมกิจกรรม โครงการศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง โดย
นางสาวสลารีวรรณ ทัพทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวต้อนรับ นายวัชระ หัศภาค ที่ปรึกษาด้านการพัฒนา สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดโครงการสื่อมวลชนสัญจร สืบสานพระราชดำริ และภาพรวมการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ศูนย์สาขาและการขยายผลศูนย์เรียนรู้
ผู้อำนวยการโครงการศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ กล่าวถึงการดำเนินงานและการขยายผลของโครงการศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ ซึ่งเกิดผลสัมฤทธิ์ในหลายมิติตลอดจนการขยายองค์ความรู้ไปสู่ประชาชนและเกษตรกรในชุมชนโดยรอบ พร้อมชมวีดิทัศน์ความสำเร็จของโครงการศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ
โอกาสนี้ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนา ได้มอบโล่ให้แก่ ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริที่ได้รับการขยายผลจากโครงการศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ ซึ่งสามารถพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ จำนวน 9 แห่ง จากศูนย์เรียนรู้ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งหมด 221 แห่ง ทั่วประเทศ
จากนั้น คณะสื่อมวลชนได้ชมกิจกรรมภายในโครงการศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ พร้อมรับฟังบรรยายระหว่างเส้นทาง ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำดอกกราย บริเวณสันอ่างตามรอยครั้งที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วยพระบรมวงศ์ ได้เสด็จพระราชดำเนินมายังอ่างเก็บน้ำดอกกราย
และพระราชทานพระราชดำริ ช่วยเหลือราษฎร
ต่อมาเยี่ยมชมการดำเนินงานด้านประมง ประกอบด้วย การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด อาทิ การอนุรักษ์พันธุ์ปลาไทย การเพาะขยายพันธุ์ปลาพระราชทาน การเพาะพันธุ์ปลานิลแปลงเพศ โดยมีเกษตรกรประมงของชุมชนประมงอ่างเก็บน้ำดอกกราย ที่ได้รับพันธุ์ปลาจากโครงการร่วมให้ข้อมูล ชมงานศึกษาและทดสอบพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ และไม้ฟอกอากาศ อาทิ สับปะรดสี หน้าวัวประดับ ลิ้นมังกร บอนสี ไม้ประดับกระถาง ไม้แขวนชนิดต่าง ๆ พร้อมชมการสาธิตเพาะขยายพันธุ์ไม้กระถาง และการบังคับการออกดอกพร้อมกัน เพื่อการจำหน่าย ชมกิจกรรมงานวิชาการ อาทิ
การผลิตหัวเชื้อและก้อนเห็ดเรืองแสงสิรินรัศมี การใช้สารชีวพันธุ์ จากเห็ดเรืองแสงสิรินรัศมีในการควบคุมโรคพืช (โรครากเน่าโคนเน่าในทุเรียน) ซึ่งค้นพบครั้งแรก จากโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จังหวัดขอนแก่น พร้อมพระราชทานชื่อ เห็ดเรืองแสงสิรินรัศมี
ต่อมา คณะสื่อมวลชนได้เดินทางไปยังแปลงเกษตรบ้าน นายบุญธรรม คชรินทร์ ปราชญ์เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง
ชมความสำเร็จในกิจกรรมสวนผักและสวนผลไม้แบบผสมผสาน ซึ่งได้มีการจัดสรรพื้นที่บริเวณที่อยู่อาศัยให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุด ปลูกทุกอย่างที่รับประทานได้และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ โดยยึดหลัก “ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก ทำกินให้พอ เหลือค่อยแจกจ่าย และขาย” โดยในพื้นที่มีการทำกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น ประมง ปศุสัตว์ พืชผักสวนครัว ไม้ผลฯ เกิดผลสัมฤทธิ์ มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 200,000 – 300,000 บาทต่อปี
สำหรับ โครงการศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2523 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี มายังศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง พบว่าพื้นที่เดิมของจังหวัด ระยอง-ชลบุรี เป็นสภาพป่าที่ถูกทำลาย ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ รวมทั้งขาดแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ราษฎรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร และประสบปัญหาผลผลิตตกต่ำ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงได้พระราชทานพระราชดำริ สรุปความว่า “บริเวณอ่างเก็บน้ำดอกกราย อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 1,300 ไร่ สามารถส่งน้ำมายังพื้นที่ดังกล่าวได้ และทรงแนะนำให้จัดเป็นศูนย์กลางอาชีพการเกษตรและศิลปาชีพพิเศษแก่ราษฎร” พร้อมพระราชทานแนวทางการพัฒนาไว้ 4 ประการ คือ
1) ให้พัฒนาด้านการเกษตร โดยเฉพาะด้านปศุสัตว์และการประมง เพื่อการบริโภคและสำรองอาหารไว้ในยามวิกฤติ 2) ให้มีศูนย์ฝึกปฏิบัติการด้านการประกอบอาชีพ โดยมีแปลงสาธิตของราษฎรตัวอย่าง โดยปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ควบคู่กันไป 3) ให้จัดเป็นศูนย์กลางส่งเสริมการเลี้ยงปศุสัตว์ โดยให้ราษฎรยืมพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ดีไปผสม หรือเลี้ยงแล้วส่งลูกคืน และ 4) ให้มีศูนย์พัฒนาการเกษตร ประชาชนจะได้ศึกษาและเยี่ยมชม เพื่อนำไปเป็นแบบอย่างการดำเนินงาน
ปัจจุบัน โครงการศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ ได้ดำเนินงานถ่ายองค์ความรู้ผ่านการฝึกอบรมที่ทันสมัยกว่า 8 หลักสูตร ที่ปรับเปลี่ยนหมุนเวียน รองรับผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาได้ถึง 25,000 รายต่อปี
จากนั้น สื่อมวลชนได้เดินทางไปยัง อาคารนิทรรศน์พรรณพฤกษา ของบริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง โดยมีนายรัตติกูล ปิยะวงค์วาณิชย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด กล่าวต้อนรับและกล่าวถึงความร่วมมือระหว่าง บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด กับสำนักงาน กปร. โดยศูนย์บริการการพัฒนาขยายพันธุ์ไม้ดอกไม้ผลบ้านไร่ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ในการดำเนินการวิจัยการใช้ประโยชน์จากการนำความเย็นที่เหลือทิ้งจากสถานีรับ – จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) มาใช้ในการพัฒนาประสิทธิภาพ
ในกระบวนการผลิตพืชเมืองหนาวและถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ผู้ปลูกและเกษตรกรในประเทศไทย พร้อมชมวีดิทัศน์ กระบวนการผลิตไม้ดอกเมืองหนาว โดยการใช้พลังงานความเย็นเหลือทิ้งจากการเปลี่ยนสถานะก๊าซธรรมชาติเหลว LNG มาใช้ประโยชน์ในการวิจัยพืชเมืองหนาวและพืชเมืองร้อน ของศูนย์เลิศพัฒนพฤกษ์ โดยได้ชมแปลงปลูกไม้ดอกและพืชเมืองหนาว ตลอดถึงพืชอื่น ๆ อาทิ ดอกทิวลิป ไฮเดรนเยีย และต้นวาซาบิ
สำหรับ โครงการสื่อมวลชนสัญจร สืบสานพระราชดำริ ที่สำนักงาน กปร. จัดขึ้นในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อเปิดโอกาส
ให้สื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ ได้ถ่ายทอดเรื่องราว พระมหากรุณาธิคุณ และพระราชปณิธานใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานไว้
เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างประโยชน์สุขให้แก่ประชาชน และประเทศชาติอย่างอเนกอนันต์
สำนักงาน กปร. ในฐานะหน่วยงานกลางในการดำเนินงานสนองพระราชดำริ และเผยแพร่ผลสำเร็จจากโครงการ
อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จึงจัดโครงการสื่อมวลชนสัญจร สืบสานพระราชดำริขึ้น เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารไปสู่ประชาชน ตลอดจนกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ ให้ได้รับรู้รับทราบและมีความเข้าใจโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มากยิ่งขึ้น
นิราช/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี รายงาน 0909534645

You missed