ครม. ไฟเขียว สินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพจากออมสิน – สินเชื่อซื้อซ่อมและสร้าง เพื่อที่อยู่อาศัย จาก ธอส.
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแยกบัญชีโครงการสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพของธนาคารออมสิน (โครงการสินเชื่อฯ) เป็นบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ พร้อมทั้งมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ ดังนี้
1. จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมถึงต้นทุนการผลิตและระดับราคาสินค้าทั่วไปปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ค่าครองชีพและต้นทุนในการประกอบอาชีพของประชาชนปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้ประชาชนประสบกับปัญหาด้านสภาพคล่องและมีรายได้ไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้ ได้ตามกำหนด ทั้งผู้ที่เป็นหนี้ในระบบและหนี้นอกระบบ จนเกิดเป็นปัญหาเรื้อรัง เพื่อให้ปัญหาดังกล่าวบรรเทาลงและได้รับการแก้ไขธนาคารออมสินจึงขอดำเนินโครงการสินเชื่อฯ (ซึ่งเป็นโครงการที่ธนาคารออมสินดำเนินการเองโดยไม่ได้ของบประมาณจัดสรรเพิ่มเติม เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน เสริมสร้างสภาพคล่องในการประกอบอาชีพและนำไปชำระหนี้นอกระบบหรือหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่กู้ยืมมาใช้ในการประกอบอาชีพและดำรงชีพ
วงเงินโครงการ ไม่เกิน 15,000 ล้านบาท / วงเงินสินเชื่อต่อรายสูงสุดไม่เกินรายละ 50,000 บาท โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผู้มีรายได้ประจำ ลูกจ้าง พ่อค้า แม่ค้า หรือผู้รับจ้างให้บริการต่าง ๆ ที่มีรายได้ แต่ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย มีถิ่นที่อยู่แน่นอนและสามารถติดต่อได้ รวมถึงมีอายุครบ 20 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์ ณ วันยื่นขอกู้ / ระยะเวลากู้ยืม : ชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นงวดรายเดือน , สูงสุดไม่เกิน 5 ปี (60 งวด) อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0.75 ต่อเดือน
2. การแยกบัญชีโครงการสินเชื่อฯ เป็นบัญชี PSA จะทำให้เกิดความโปร่งใส ในการกำกับดูแล การตรวจสอบและการประเมินผลการดำเนินงานของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ในการทำหน้าที่เป็นกลไกของรัฐเพื่อฟื้นฟูและช่วยเหลือกลุ่มประชาชนและธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น
3. การดำเนินการดังกล่าวไม่เข้าข่ายลักษณะของกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 เนื่องจากเป็นโครงการที่ธนาคารออมสินดำเนินการเองโดยไม่ได้ขอรับงบประมาณชดเชยเพิ่มเติมจากรัฐบาลแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ครม. ยังเห็นชอบมาตรการสินเชื่อซื้อ – ซ่อม – สร้าง ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และอนุมัติงบประมาณวงเงินรวม 6,372.88 ล้านบาท จากงบประมาณจ่ายประจำปี เพื่อดำเนินมาตรการฯ พร้อมทั้งมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อเป็นการสนับสนุนภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รองรับความต้องการที่อยู่อาศัยของประชาชน ส่งเสริม และสร้างโอกาสให้กับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางได้เข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยภายใต้เงื่อนไขที่ผ่อนปรนเหมาะกับศักยภาพการผ่อนชำระหนี้ รวมทั้งเป็นการเสริมสร้างวินัยทางการเงินของประชาชน เพื่อไม่ให้เกิดภาระทางการเงินในอนาคต ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุด ปลูกสร้างอาคารหรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร และเพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย มีกลุ่มเป้าหมายคือ ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท วงเงินมาตรการ 50,000 ล้านบาท วงเงินสินเชื่อต่อรายต่อหลักประกัน : ไม่เกินรายละ 3 ล้านบาท (ราคาตามสัญญาจะซื้อ จะขายและ/หรือค่าก่อสร้างไม่เกิน 3 ล้านบาท)
โดยทั้งสินเชื่อของออมสิน และ ธอส. สามารถยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 หรือจนกว่าจะครบวงเงินโครงการ ติดต่อธนาคารออมสิน โทร. 0 2299 8000 หรือสายด่วน 1115 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ โทร. 0 2645 9000
นางสาวสายรุ้ง ธรรมมี
รายงาน จังหวัดแพร่
ติดตามข่าวได้ที่เว็บไซต์
#คมชัด AEC TV ออนไลน์
#ข่าวนคร AEC TV ออนไลน์