ปราจีนบุรี-ญาติทหารเกณฑ์โดดหอนอนสาหัส ขอดูกล้องวงจรปิดพร้อมให้สัมภาษณ์


*****จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊ค Wanwisa Oatchai โพสต์ข้อความ ว่า “พี่กูโดดเพราะมึง” ซึ่งเหตุเกิดในค่ายทหาร ในจังหวัดปราจีนบุรี ทำให้พลทหารที่โดดตึกอาการสาหัส เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา นั้น
*****ความคืบหน้าในเรื่องนี้ วันนี้ ทาง น.ส.วันวิสา อัดใจ (น้องสาว) และนายประสิทธิ์ อัดใจ (พ่อ) ของน้องพลทหาร ได้เดินทางไปถึงที่โรงพยาบาลค่ายจักพงษ์ โดยมี พล.ต.ไพรัช แก้วศรี ผบ.มทบ.12 ค่ายจักรพงษ์ พร้อมคณะนายทหาร เปิดห้องเพื่อทำการพูดคุยอยู่เป็นเวลานาน ก่อนที่ให้ญาติเข้าเยี่ยมอาการ พลทหารประกิจ อัดใจ อายุ 23 ปี ที่ห้อง ICU และได้ขึ้นรถตู้ของค่ายเพื่อเดินทางไปตรวจสอบยังที่พักที่เกิดเหตุ ซึ่งเรือนนอนดังกล่าวเป็นอาคารแบบ 2 ชั้น โดยที่นอนอยู่บริเวณชั้นบนของอาคาร โดยทางผู้บังคับบัญชาได้ชี้แจงจุดเกิดเหตุที่น้องกระโดด ซึ่งมีกล้องวงจรปิดอยู่บริเวณเสาของอาคาร
*****จากนั้น ทางผู้บังคับบัญชาจึงได้พาญาติน้องทหารเดินไปตรวจดูสภาพที่พัก ที่จัดเป็นโรงนอนของทหาร และเปิดตู้ที่เก็บเสื้อผ้าของใช้ พลทหารประกิจ อัดใจ อายุ 23 ปี ซึ่งทางน้องสาวได้เปิดดูสมุดบันทึกของพี่ชายว่า มีการบันทึกข้อมูลอะไรไว้ที่ก่อให้เกิดปัญหาที่คิดสั้นกระโดดอาคารหรือไม่ ก่อนที่จะพากันเดินทางไปยังตึกกองบัญชาการ เพื่อดูภาพจากกล้องวงจรปิด จากภาพวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์ในช่วงเวลา 18.43 น. วันที่ 21 มี.ค. 67 พลทหารประกิจ อัดใจ ได้เปิดประตูโรงนอนแล้วเดินไปยังระเบียงแล้วขึ้นไปบนราวกั้นก่อนกระโดดลงไปด้านล่าง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทางญาติพร้อมผู้บังคับบัญชา จึงได้พาญาติเดินทางกลับไปที่โรงพยาบาลเพื่อพูดคุยกันอีกครั้ง ก่อน ผบ.มทบ.12 และน้องสาวจะออกมาให้สัมภาษณ์
*****พล.ต.ไพรัช แก้วศรี ผบ.มทบ.12 กล่าวว่า กล่าวสรุป ความคืบหน้าเรื่อวนี้ ได้เชิญสื่อมวลชนดูสถานที่เกิดเหตุและดูภาพวงจรปิดไปแล้วและได้มาสรุปกับพ่อแม่และน้องสาวของน้องทหารแล้ว และตกลงกันว่า ได้ให้ความยุติธรรมเรื่องการหาสาเหตุของน้องทหารที่ทำแบบนี้มาจากสาเหตุใด เพื่อจะได้ข้อมูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์ เราจะให้ทางพ่อแม่ไปร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจ เพื่อที่พนักงานสอบสวนจะได้มาเก็บหลักฐานพิสูจน์สิ่งต่าง ๆ ว่าเกิดจากสาเหตุใดที่ทำให้น้องตัดสินใจกระโดดลงมา ก็ได้พูดคุยกันแล้วเพื่อความยุติธรรมและความสบายใจของญาติของน้องพลทหาร
*****เบื้องต้นจากการตรวจร่างกายไม่มีผิดปกติ มีแผลที่เกิดจากการกระโดดลงมา และพบสารอะไรหรือไม่ก็ไม่ขอตอบนะคะ ไว้ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการ ทางเราก็ให้การดูแลรักษาและจะทำการเคลื่อน ย้ายไปโรงพยาบาลพระมงกุฎในช่วงวันนี้ ส่วนเรื่องยาเสพติดและซึมเศร้าก็ไม่มีประวัติการรักษา ในเรื่องนี้ขอให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้สอบสวน
*****ในส่วนของภายในเราก็ตั้งคณะกรรมการสอบสวนภายในองค์กร ญาติจะได้สบายใจ บางอย่างเราไม่สามารถไปสอบสวนผู้ปกครอง พ่อแม่ของน้องพลทหารได้ทั้งหมด ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการจะได้ข้อมูลที่ดีกว่า ก็ขอยืนยันว่าเราจะให้ความยุติธรรมกับน้องพลทหาร ที่ผมตั้งไว้ 3 ประเด็น ประเด็นแรกความกดดันของหน่วย ประเด็นที่สองเรื่องปัญหาส่วนตัวและประเด็นที่สามอาการป่วยให้พนักงานสอบสวนดำเนินการ ผมก็แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในส่วนของกองทัพบกก็เสียใจกับเหตุกาณณ์ที่เกิดขึ้นแต่กองทัพบกก็ไม่มีนโยบายกดดันการปฏิบัติงานของพลทหารอยู่แล้วเราก็ปฏิบัติงานโดย มองว่าน้องที่เข้ามาเป็นน้องคนเล็กของหน่วยเราก็พยายามดูแลน้องเพิ่งเดินทางกลับจากบ้านเมื่อวันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา
*****น.ส.วันวิสา อัดใจ น้องสาวของพลทหาร กล่าวว่า จากการที่เข้าไปดูที่นอน หนูรู้สึกว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ให้ดูอย่างโปร่งใส ที่เข้าไปดูหอพักและดูกล้องวงจรปิด และโทรศัพท์ของพี่ชายก็จะนำไปให้ตำรวจดู และให้เราไป เรารู้สึกว่า หน่วยงานก็ให้ความเป็นธรรมกับเราเต็มที่ การดูและของหน่วยก็โปร่งใสเต็มที่//////////ณัฐวัฒน์ กุลเศรษฐ์สุวภา ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรี