หนุ่มโรงงานใช้เวลาว่างจากการทำงานมา เลี้ยงปูเนื้อและปูไข่ เลียนแบบธรรมชาติ เริ่มได้รับความนิยม หลังกุ้งและปลาราคาตกต่ำและเลี้ยงยากขึ้น กลายเป็นรายได้เสริมของคนมีงานประจำ

 

 

บ่อดินเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ พร้อมทำระบบระบายน้ำตามธรรมชาติ ด้วยน้ำขึ้นน้ำลงของทะเล ในพื้นที่ บ้านบางปู ม.4 ต.ท่าฉาง อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี กลายเป็นบ่อเลี้ยงปูเนื้อและปูไข่ของครอบครัวมณีศรี ที่สามารถสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัว นอกเหนือจากรายได้จากงานประจำ โดยการรวบรวมลูกปูดำในราคาตัวละประมาณ 15 บาท แล้วแต่ขนาดโดยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ขนาดกว้างของกระดองประมาณ 3 นิ้ว จากนั้นก็นำมาพักในถังขนาดใหญ่ พร้อมนำน้ำในบ่อดินมาใส่ สร้างความคุ้นชินให้กับปู หรือเป็นการให้ปูได้ปรับสภาพน้ำจากบ่อเลี้ยงจริงประมาณระยะเวลาหนึ่ง ก่อนปล่อยลงไปในบ่อดิน ที่มีน้ำที่สะอาด มีธาตุอาหาร มีดินก้นบ่อมีเหมือนป่าชายเลน รวมถึงแพลงตอนพืชและแพลงตอนสัตว์ เหมาะแก่การเลี้ยงสัตว์น้ำแต่นอกจากน้ำที่สะอาดและมีแหล่งอาหารในน้ำแล้ว อีกส่วนที่สำคัญคือตามขอบบ่อ ควรมีต้นไม้ป่าชายเลน และหญ้า เพื่อให้ปูเหมือนกับอยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติมากที่สุด

 

 

 

ลดอาการตกใจของปู สร้างความสุขให้กับปู ปูเนื้อและปูไข่ที่เลี้ยงไว้จะได้ไม่คลานหนีออกจากบ่อ ซึ่งกว่าจะเข้าใจธรรมชาติ ก็ต้องเรียนรู้มานาน เพื่อเข้าใจปูดำให้มากที่สุด
โดยในช่วงแรกประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา ที่เริ่มเลี้ยวใหม่ๆ พบว่าปูคลานออกจากบ่อเมื่อเวลาฝนตก เพราะขอบบ่อเตียนโล่งไม่มีต้นไม้และหญ้าเลย เมื่อศึกษาจนมีหญ้าและต้นไม้ป่าชายเลยเยอะขึ้นก็ลดปัญหาปูคลานหนีออกจากบ่อได้เป็นอย่างดี
นายขจรศักดิ์ มณีศรี อายุ 28 ปี เจ้าของ กล่าวว่า ส่วนสาเหตุที่หันมาเลี้ยงปูเนื้อและปูไข่ เลี้ยงระบบเลียนแบบธรรมชาติ บ่อดินที่เห็นเป็นบ่อของครอบครัว เดิมใช้เลี้ยงกุ้ง แต่ประสบปัญหาโรคเยอะและราคาไม่แน่นอน จึงเปลี่ยนมาเลี้ยงปลากะพงขาว แต่ก็มาเจอปัญหาราคาตกต่ำไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน จึงปล่อยบ่อว่างมาหลายปี แต่ด้วยที่ตนเองอยู่กับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำมาตั้งแต่เด็ก และบ่อก็ติดคลองใหญ่ที่ใกล้ทะเล น้ำสะอาดจึงศึกษาการทำน้ำที่สะอาดและมีอาหารตามธรรมชาติที่เหมาะกับปูดำ และดำเนินการเลี้ยงครั้งแรกซื้อลูกพันธุ์จากภายนอก แต่ก็พบว่าอัตราการรอดนอก จึงเปลี่ยนมาซื้อลูกปูไซต์ใหญ่ที่ชาวบ้านจับได้จากธรรมชาติมาเลี้ยงแทน ซึ่งก็พบปริมาณปูที่เพิ่มขึ้นสำหรับการเลี้ยงจะเลี้ยงแบบธรรมชาติเป็นหลักให้ปูหากินเองตามธรรมชาติ และเสริมอาหารเป็นจำพวกหอยและเนื้อปลา 2 ครัั้งต่อสัปดาห์ กลายเป็นเงินสะสมของครัวเรือน
ด้านนายสุกิจ มีพริ้ง นายอำเภอท่าฉาง กล่าวว่า ถือเป็นอาชีพเสริมที่กำลังได้รับความนิยมจากเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ทางอำเภอเองก็สนับสนุนเช่นกันให้เจ้าหน้าที่ประมงได้ให้ความรู้ทางด้านวิชาการเพิ่มเติม และช่วยในเรื่องการลงทะเบียนผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อประโยชน์ในการให้การช่วยเหลือด้านต่างๆจากรัฐบาล ส่วนตลาดก็ไม่มีปัญหา เพราะเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่ยังคงได้รับความนิยมจากผู้บริโภคราคาก็สูง ดังนั้นชาวบ้านที่มีบ่อเลี้ยงกุ้งที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ลองศึกษาให้ดี เพื่อการเพาะเลี้ยงปูเนื้อและปูไข่ ให้เป็นรายได้ครัวเรือน
สำหรับการขายก็จะขายผ่านออนไลน์เป็นหลัก เมื่อมีลูกค้าสั่งก็จะนำลอบไปวางเพื่อจับปูขึ้นมาพักไว้ เมื่อครบตามจำนวนก็จะให้ลูกค้ามารับในราคาจากเกษตรกร โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นลูกค้าที่ต้องการปูดำราคาประหยัดไปทำอาหารสังสรรภายในครอบครัวที่ราคาถูกกว่าไปรับประทานที่ร้านอาหาร ใครส่งใจตติดต่อได้ที่เบอร์ 094-254-5819 หรือ FB : Toei Maneesri และ FB: คน ธรรมดา

 

ติดตามข่าวได้ที่เว็บไซต์
#คมชัด AEC TV ออนไลน์
#ข่าวนคร AEC TV ออนไลน์

 

You missed