From Farm To Table สัมผัสวัฒนธรรมอาหารและเกษตรอินทรีย์ จากชุมชนสู่สากล
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 ที่ ลานต่อสุข (ข้างร้านกาแฟ เฮือนฮังต่อ) อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน นางวจิราพร อมาตยกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธีเปิด งาน “From Farm To Table สัมผัสวัฒนธรรมอาหารและเกษตรอินทรีย์ จากภูผาสู่สากล” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) และยกระดับวัฒนธรรมอาหารพื้นถิ่นน่านให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการทั้งภาครัฐและเอกชน หน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงานฯ
การจัดงานครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานสำคัญ อาทิ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา น่าน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) WWF ประเทศไทย และองค์กรอื่น ๆ ที่ร่วมกันผลักดันการพัฒนาอาหารพื้นถิ่นให้เติบโตอย่างยั่งยืนและมีมูลค่าเพิ่มในระดับเศรษฐกิจชุมชน พร้อมมุ่งเน้น 3 เป้าหมายหลัก คือ ส่งเสริมและเผยแพร่วัฒนธรรมอาหารพื้นถิ่นน่าน ให้เป็นที่รู้จักในระดับสากลผ่านการนำเสนออัตลักษณ์และคุณค่าของวัตถุดิบท้องถิ่น, เพิ่มมูลค่าและสร้างความยั่งยืนให้กับวัตถุดิบอาหารพื้นถิ่น ผ่านการจัดแสดงและนำเสนอผลิตภัณฑ์ในรูปแบบที่สร้างสรรค์ และสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) เชื่อมโยงวัฒนธรรม อาหารพื้นถิ่น และการเกษตรอินทรีย์ในจังหวัดน่าน
ด้าน ผศ.ดร.น.สพ. สุวิทย์ โชตินันท์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในนามของคณะผู้จัดงาน กล่าวว่า “From Farm To Table เป็นเวทีที่นำเสนออัตลักษณ์ของชุมชนผ่านอาหารท้องถิ่น นอกจากการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารแล้ว งานนี้ยังสนับสนุนการสร้างรายได้และความมั่นคงในอาชีพให้กับเกษตรกรในพื้นที่ โดยวัตถุดิบที่นำมาใช้ในงานครั้งนี้ล้วนเป็นผลผลิตจากชุมชนในจังหวัดน่าน ซึ่งสะท้อนถึงคุณภาพและศักยภาพของชุมชนในด้านการเกษตรและวัฒนธรรมอาหาร”
อย่างไรก็ตาม ด้านนางวจิราพร อมาตยกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวเพิ่มเติมว่า “งานนี้เป็นความร่วมมือจากหลากหลายภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อยกระดับศักยภาพของวัฒนธรรมอาหารพื้นถิ่นน่าน สู่วัฒนธรรมอาหารที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล การจัดงานในวันนี้ไม่เพียงสะท้อนอัตลักษณ์ของชุมชนผ่านวัตถุดิบท้องถิ่น แต่ยังช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก และสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนอย่างแท้จริง”
งาน From Farm To Table ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมด้านอาหารแล้ว ยังเป็นเวทีสำคัญในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจชุมชนเข้ากับการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ สร้างความตระหนักรู้ในเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน และสร้างความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมพื้นถิ่นให้กับชาวจังหวัดน่านและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอีกด้วย/บุญยงค์ สดสอาด นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน