ผู้ว่าฯ ขอนแก่น สั่งนายอำเภอกระนวน นำหมายค้นธุรกิจมืดบ่อนพนันออนไลน์เปิดมากว่า 4 ปี มีบัญชีเงินหมุนเวียนหลายล้านบาท พบผู้เกี่ยวข้องมีพฤติการณ์ค้ายาเสพติด ผู้เล่นพนันปัสสาวะม่วงทุุกคน เปิดเย้ยกฎหมายมอมเมาเยาวชน ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมืองกระนวน
เมื่อคืนวันที่ 12 มกราคม 2567 ประมาณเกือบเที่ยงคืน ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดขอนแก่น ภายใต้การอำนวยการของนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น มอบหมายให้ นายยุทธพร พิรุณสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และ นายประจวบ รักแพทย์ ปลัดจังหวัดขอนแก่น นายคเณศวร เกษอินทร์ นายอำเภอกระนวน พร้อมกำลังพนักงานฝ่ายปกครอง สมาชิก อส. จังหวัดขอนแก่น และ สมาชิก อส.อำเภอกระนวน เปิดปฏิบัติการนำหมายค้นศาลจังหวัดขอนแก่นบุกทลายบ่อนพนันออนไลน์ และ จัดจำหน่ายยาเสพติดมอมเมาเด็กเยาวชนย่านใจกลางพื้นที่อำเภอกระนวน
มูลเหตุของปฏิบัติการครั้งนี้มาจาก นายคเณศวร เกษอินทร์ นายอำเภอกระนวน ได้รับแจ้งปัญหาความเดือดร้อนจากผู้ปกครองนักเรียนว่าบุตรหลานออกจากบ้านไปมั่วสุมยาเสพติดในห้วงเวลากลางคืน และ กลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ไปรวมตัวกันมั่วสุมอยู่ที่สถานที่ซึ่งตั้งอยู่เยื้องโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกระนวน โดยสถานที่ดังกล่าวเป็นอาคารพาณิชย์ ที่ประตูทางเข้าเป็นประตูแบบผลัก ปิดสติกเกอร์ระบุข้อความว่า “ต่ำกว่า 18 ปี ห้ามเข้า” โดยแต่ละวันโดยเฉพาะช่วงหลังเที่ยงคืน จะมีกลุ่มเด็กเยาวชนหมุนเวียนเข้าออกจำนวนหลายสิบคน และมีรถจักรยานยนต์จอดอยู่หน้าอาคารดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งเด็กเยาวชนหลายคนที่ออกมาจากสถานที่ดังกล่าวต่างมีอาการมึนเมาคล้ายเสพสุราหรือยาเสพติดด้วย จึงได้รายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นทราบและสั่งการให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด
ต่อมา สายลับพนักงานฝ่ายปกครองจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่ดังกล่าว พบว่าบ่อนพนันแห่งนี้ ได้วางระบบการป้องกันการถูกจับกุม โดยจัดให้มีคนเฝ้าต้นทางหน้าบ่ิอนพนันตลอดเวลา ประมาณ 2-4 คน และ ด้านหลังบ่อนยังเชื่อมต่อถนนอีกสายหนึ่ง ซึ่งมีเลนถนนแคบ โดยจะมีรถยนต์จอดขวางห่างจากอาคารบ่อนในลักษณะกีดขวางเส้นทางไม่ให้พาหนะรถยนต์ผ่านได้ เกิดความไม่สะดวกในการเดินทางเข้ามาตรวจสอบได้โดยง่าย และ เพื่อให้เกิดความสะดวกต่อการหลบหนี และเมื่อสายลับฝ่ายปกครองได้อำพรางตนเข้าไปในบ่อนดังกล่าวก็พบเด็กเยาวชนอายุน้อยจำนวนมากเล่นการพนัน และ มั่วสุมในลักษณะเสพยาเสพติดภายในบ่อนด้วย รวมทั้งติดตั้งกล้องวงจรปิดทั่วบริเวณเพื่อตรวจสอบบุคคลเข้าออกร้าน
จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้สั่งการให้นายอำเภอกระนวน เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการฝ่ายปกครองขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดขอนแก่น โดยมี นายใจเพชร ขวาลำธาร ป้องกันจังหวัดขอนแก่น นายธวัชชัย ทวีผล ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นายธนากร ชลพันธ์ ปลัดอำเภอฝ่ายอำนวยความเป็นธรรม เป็นรองหัวหน้าชุดนำกำลังร่วมปฏิบัติการ โดยให้รายงานการวางแผนปฏิบัติการและปฏิบัติตามที่นายยุทธพร พิรุณสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น สั่งการอำนวยการให้เป็นไปตามกฎหมาย
ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง ได้วางแผนเข้าจับกุม โดยจัดกำลังปิดล้อมทางเข้าออกในเวลาเดียวกัน ทำให้นักพนันไม่สามารถหลบหนีได้ แต่ก็ถูกจับกุมได้ทั้งหมด พบผู้ที่รับเป็นผู้จัดการบ่อนพนัน และ นักพนัน หลายคน พร้อมเงินสด และบัญชีธนาคารเงินหมุนเวียนหลายล้านบาท จึงได้ยึดไว้เป็นของกลางตามกฎหมาย และได้ตรวจปัสสาวะเบื้องต้นพบว่าทุกคนมีปัสสาวะสีม่วง จึงส่งตรวจยืนยันรอผลการตรวจอีกครั้ง และมียาเสพติด (ยาบ้า) จำนวน 8 เม็ด โดยผู้ครอบครองยาเสพติดได้รับเบื้องต้นว่า ได้จำหน่ายยาเสพติดให้กับผู้เล่นการพนัน และเด็กเยาวชนที่มาเล่นพนันด้วย ระหว่างการตรวจสอบภายในร้านได้มีบุคคลเดินเข้ามาบริเวณร้านที่เกิดเหตุเหมือนคนเมาสุรา หรือ ยาเสพติด เมื่อสอบถามก็รับว่าจะเข้ามาซื้อยาเสพติดที่ร้านดังกล่าว เมื่อตรวจปัสสาวะก็พบว่าเป็นสีม่วงเช่นกัน รวมทั้ง พบป้ายกระดาษปิดไว้ที่ห้องน้ำภายในร้านข้อความว่า “งดเข้าห้องน้ำ ลูกค้าบางคนเอายามาเสพในห้องน้ำ” อีกด้วย จึงได้นำตัวผู้ถูกจับกุมทั้งหมดมาทำบันทึกการจับกุม ณ ที่ว่าการอำเภอกระนวน ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันลักลอบจัดให้มี และ เข้าเล่นการพนันโดยผิดกฎหมาย และ ผู้ต้องหา 1 ราย รับว่าตนเองเป็นผู้จำหน่ายยาเสพติดให้โทษ (ยาบ้า) ซึ่งผู้จัดการร้านแจ้งว่า บ่อนแห่งนี้เปิดมาเป็นเวลา 4 ปี โดยแต่ละวันจะมีการจัดเวรดูแลวันละ 5 ผลัด ซึ่งเจ้าของบ่อนยังประกอบธุรกิจเต๊นท์รถขนาดใหญ่ด้วย จากนั้น เจ้าพนักงานผู้จับกุม จักได้แจ้งประสานกับพนักงานสอบสวน สภ.กระนวน พิจารณาอายัดบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้อง และแจ้ง สำนักงาน ปปง. พิจารณาตรวจสอบเส้นทางการเงินเจ้าของบัญชีธนาคารตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
ทั้งนี้ หากประชาชนมีความทุกข์ ได้รับความเดือดร้อนจากบ่อนการพนัน หรือ ยาเสพติด หรือ หนี้นอกระบบ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น หรือ ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ หรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อรับความช่วยเหลือได้ตลอดเวลา